โรคปอดอักเสบนั้นเป็นโรคที่ทุกคนต่างคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ปอดอักเสบจากการักษาด้วยภูมิคุ้มกันคืออะไรกันนะ？

　　ภาวะปอดอักเสบจากการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันเป็นภาวะแทรกซ้อนชนิดหนึ่งของผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ได้รับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันแบบ PD1 ซึ่งยากที่จะระบุประเภทได้ และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาโดยทันที พวกเราต่างทราบดีว่า หลังจากมีการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันเกิดขึ้น รวมถึงการรักษาโรคมะเร็ง รวมถึงมะเร็งปอดมีความก้าวหน้าอย่างมาก ทำให้โรคมะเร็งที่เมื่อก่อนนับเป็นโรคร้ายคร่าชีวิต ปัจจุบันค่อยๆเปลี่ยนเป็นโรคชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยสามารถอยู่ร่วมกับโรคได้หากเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง

　　การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันนั้นนับเป็นความก้าวหน้าในความสำเร็จของการวิจัยทางการแพทย์ในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันที่เพิ่งได้รับรางวัลโนเบลไปเมื่อปีที่แล้วนั้นแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการต่อต้านโรคมะเร็ง รวมถึงการร่วมมือกันของวงการแพทย์ทั่วโลกอีกด้วย อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถที่จะปฎิเสธได้ว่าไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยวิธีใดก็ตาม ล้วนมีผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนของการรักษาโรคเช่นกัน เนื่องจากมีผู้ป่วยมะเร็งหลายท่านเข้ารับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยหลายท่านได้รับผลการรักษาที่ดี ในขณะเดียวกันก็มีผู้ป่วยบางกลุ่มที่เกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน และหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นและอันตรายมากที่สุดก็คือ อาการปอดอักเสบจากการรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน

　　ศ.นพ.หนิวลี่จื้อ ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากล่าวว่า “อัตราผู้เกิดภาวะปอดอักเสบจากการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันนั้นอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ ไม่เหมือนกับการรักษาด้วยคีโมที่พวกเราคุ้นเคยเป็นอย่างดี ที่จะสามารถทราบได้ว่าผลข้างเคียงจะเกิดขึ้นในช่วงใด และควรจะรับมืออย่างไร วิธีการระบุประเภทและการป้องกันภาวะปอดอักเสบจากการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันนั้นปัจจุบันพวกเรายังไม่มีความรู้ทางการแพทย์ที่เพียงพอ ดังนั้นพวกเราจึงต้องศึกษาจากเคสตัวอย่าง หากพบความเสี่ยงจะต้องรักษาให้ทันเวลา และทำการรักษาตามอาการ”

　　ผู้ป่วยชาวอินโดนีเซียเกิดภาวะ “ปอดสักเสบจากการรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน” ผู้เชี่ยวชาญของฟูด้าใช้การรักษาด้วยฮอร์โมนในการช่วยเหลืออย่างทันที

　　เมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ป่วยหนึ่งท่านจากโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าเกิดภาวะปอดอักเสบจากการรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน

　　ผู้ป่วยท่านนี้เป็นผู้ป่วยมะเร็งปอดเพศชาย ชาวอินโดนีเซีย วัย 60 กว่าปี เข้ารับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน PD1 ร่วมกับคีโมเฉพาะจุดที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าจำนวน 6 รอบ ผลการรักษาอยู่ในเกณฑ์ดี ก้อนมะเร็งได้ถูกสลายไปเกือบหมดทั้งก้อน หลังจากเข้ารับการรักษาเหล่าผู้เชี่ยวชาญและแพทย์เจ้าของคนไข้ รวมถึงตัวคนไข้และญาติๆรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก

　　หลังจากผู้ป่วยกลับถึงอินโดนีเซีย ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ายังคอยติดตามอาการกับผู้ป่วยอยู่เรื่อยๆ หลังจากทำการตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลในอินโดนีเซียพบว่าอาการอยู่ในเกณฑ์ปกติ

　　แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่วัน แพทย์จากโรงพยาบาลฟูด้าได้โทรไปถามอาการกับผู้ป่วยพบว่า ตอนนี้ผู้ป่วยพักอยู่ที่บ้านมีอาการแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออก ถึงแม้จะดูเป็นอาการที่สามารถเกิดได้ทั่วไป แต่ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจที่แน่นอน เนื่องจากทางแพทย์ทราบกระบวกการรักษาทั้งหมดของผู้ป่วยเป็นอย่างดี จึงคาดการณ์ว่าเขาอาจจะเกิดภาวะปอดอักเสบจากการรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน ซึ่งภาวะแทรกซ้อนชนิดนี้หากไม่ได้เข้ารับการวินิจฉันและทำการรักษา จะเป็นอันตรายต่อตัวคนไข้อย่างมาก

　　หลังจากได้พูดคุยกับแพทย์จากฟูด้า คนไข้และญาติจึงรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าโดยทันที หลังจากทำการตรวจซ้ำ จากผล CT พบว่าที่ปอดทั้งสองข้างมีภาวะปอดอักเสบ และพบว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวและ PCT ไม่ได้สูงเกินเกณฑ์ ซึ่งอาการไม่เหมือนกับการเป็นไข้หรือมีการติดเชื้อ ที่หนักที่สุดคือเมื่อคนไข้มาถึงโรงพยาบาลออกซิเจนของคนไข้ลดต่ำลงถึงประมาน 90 เท่านั้น หลังจากเข้ารับการวินิจฉัยโรค ทีมแพทย์ของฟูด้าได้แจ้งว่าผู้ป่วยเกิดภาวะปอดอักเสบจากการรักษาด้วยภูมิคุ้มกัน จึงรีบทำการรักษาด้วยฮอร์โมนให้ผู้ป่วยโดยทันที ที่น่าดีใจก็คือหลังจากได้รับยาในวันที่ 2 ผู้ป่วยก็สามารถหายใจได้สะดวกแล้ว รวมถึงอาการต่างๆเช่น อาการแน่นหน้าอกก็หายไปเช่นกัน

　　ศ.นพ.หนิวลี่จื้อกล่าวว่า ภาวะปอดอักเสบจากการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันนั้นจะต้องทำการวินิจฉัยอย่างถูกต้องและว่องไว และต้องทำการรักษาตามอาการโดยทันที หากพลาดโอกาสสำคัญในการรักษาไปจะมีความเสี่ยงสูงมาก อัตราการเสียชีวิตก็สูงเช่นกัน ดังนั้นเราจะต้องติดตามอาการของคนไข้ที่เข้ารับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันทุกท่านอย่างใกล้ชิด หากมีอาการเปลี่ยนแปลงใดๆควรแจ้งให้ทราบ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของผู้ป่วยทุกท่าน