Eddie Van Halen ตำนานนักกีต้าร์และผู้ร่วมก่อตั้งวงดนตรีชื่อดัง Van Halen ได้จากโลกนี้ไปด้วยโรคร้ายมะเร็งที่ลำคอ
None
Author:FUDA
From:ในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา Eddie Van Halen ตำนานนักกีต้าร์และผู้ร่วมก่อตั้งวงดนตรีชื่อดัง Van Halen ได้จากโลกนี้ไปด้วยโรคร้ายมะเร็งที่ลำคอในวัย 65 ปี Eddie Van Halen เป็นที่รู้จักในฐานะนักกีต้าร์ที่โดดเด่นคนหนึ่งในช่วงศตวรรษที่ 20 และเป็นผู้บุกเบิกเทคนิคการดีดกีต้าร์ไฟฟ้าอีกด้วย ตามรายงานระบุว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้เขาได้ตรวจพบถึงการกลับมาเป็นซ้ำของโรคมะเร็งคอ และได้บินไปทำการรักษาที่ประเทศเยอรมัน
หลังจากข่าวการเสียชีวิตของ Van Halen ได้ถูกปล่อยออกมา นำมาซึ่งความเศร้าเสียใจของแฟนๆที่ได้ศูนย์เสียนักดนตรีผู้มีพรสวรรค์ให้กับโรคร้าย และทำให้หลายคนตะหนักถึงโรคดังกล่าวมากขึ้น ในช่วงนี้ซึ่งเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง หลายท่านมักมีอาการคอแห้งและเกิดความกังวลและสงสัยว่า “อาการเจ็บคอในระยะยาวนั้นสามารถกลายเป็นโรคมะเร็งคอได้หรือไม่?”“ทำไมฉันถึงไม่หายจากอาการคออักเสบเรื้อรังสักที?”เราจะได้รู้ได้อย่างไรว่าอาการคออักเสบเรื้อรังกับโรคมะเร็งคอนั้นแตกต่างกันอย่างไร และจะใช้ชีวิตอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงโรคมะเร็งคอ
ความแตกต่างระหว่างโรคคออักเสบเรื้อรังและโรคมะเร็งคอ
ในความเป็นจริงแล้วโรคคออักเสบและโรคมะเร็งคอนั้นมักเกิดขึ้นกับผู้ชายวัยกลางคนที่สูงอายุที่สูบบุหรี่ อย่างไรก็ตามทั้งสองโรคนั้นมีอาการที่แตกต่างกันอยู่ โรคคออักเสบนั้นคือการเกิดการอักเสบอย่างเฉียบพลันของเยื่อบุคอหอย ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบนและรวมถึงสภาพแวดล้อมในการทำงาน พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ป่วย
ผู้ป่วยโรคคออักเสบนั้นสามารถรักษาให้หายขาดด้วยยาทั่วไป อาการหลักของผู้ป่วยโรคคออักเสบนั้นจะเริ่มต้นด้วยอาการคอแห้ง และมีความรู้สึกเจ็บที่บริเวณลำคอ และจะมีอาการเจ็บมากขึ้นเมื่อกลืนน้ำลาย ส่วนอาการหลักของโรคคออักเสบเรื้อรังนั้นประกอบไปด้วยความรู้สึกไม่สบายที่บริเวณลำคอ และมีอาการเจ็บปวด และอาการอื่นๆ เช่น คอแห้งง่าย รู้สึกเหมือนมีอะไรที่ลำคอ คายหรือกลืนค่อนข้างลำบากเป็นต้น ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นจะแย่ลงเมื่อผู้ป่วยพูดเยอะ รับประทานอาหารที่มีรสจัด เหนื่อยล้า หรืออากาศเปลี่ยนแปลง
มะเร็งลำคอเป็นชื่อเรียกโดยรวมของโรคมะเร็งโพรงจมูก มะเร็งช่องปาก มะเร็งคอหอยส่วนล่าง และมะเร็งกล่องเสียง เป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นในตำแหน่งโพรงจมูก ช่องปาก รวมไปจนถึงบริเวณลำคอ เนื่องจากอาการของโรคมะเร็งคอนั้นไม่มีอาการที่แน่ชัด ผู้ป่วยส่วนมากเมื่อเป็นโรคมะเร็งคอในระยะแรกมักคิดว่าตนเองนั้นเป็นโรคคออักเสบเรื้อรัง ทำให้พลาดเวลาที่ดีที่สุดในการรักษาไป
รู้จักกับอาการของโรคมะเร็งคอและทำการรักษาให้ทันถ่วงที
1. เสียงแหบ
อาการเสียงแหบนั้นเป็นอาการที่พบได้มากที่สุดของผู้ป่วยโรคมะเร็งคอ โดยทั่วไปนั้นมะเร็งคอนั้นมักจะพบที่บริเวณเส้นเสียงก่อน ซึ่งเนื้องอกก้อนเพียงเล็กน้อยนั้นสามารถสร้างความเสียหายให้กับลำคอและทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการเสียงแหบ ดังนั้นเมื่อคุณมีอาการเสียงแหบควรรีบเข้ารับการตรวจอย่างแม่นยำ
2. รู้สึกว่ามีสิ่งแปลกปลอมในลำคอหรือมีอาการเจ็บปวดเวลากลืน
ก้อนเนื้อที่พบบริเวณเส้นเสียงนั้นเป็นสาเหตุของความรู้สึกมีสิ่งแปลกปลอมในลำคอหรือมีอาการเจ็บปวดเวลากลืนในระยะสุดท้าย โดยส่วนมากอาการต่างๆจะไม่ปรากฎอย่างเด่นชัดในช่วงแรกเริ่มของโรคทำให้ผู้ป่วยรวมถึงแพทย์เพิกเฉยได้โดยไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อตรวจพบก้อนเนื้อในลำคอมักเป็นในช่วงที่ผู้ป่วยอยู่ในระยะกลางหรือมากกว่านั้น
3. รู้สึกเจ็บที่ในหู
เมื่อมะเร็งคอได้ลุกลามในระดับหนึ่งและทำให้เกิดอาการอักเสบรุนแรงหรือแผลที่บริเวณลำคอซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดที่บริเวณเส้นประสาท มะเร็งที่เส้นเสียงในระยะแรกโดยทั่วไปนั้นจะไม่ทำให้เกิดอาการปวด อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยในกลุ่มระยะกลางและสุดท้าย
4. มีเสมหะปนเลือด
เนื่องจากก้อนเนื้อที่เกิดขึ้นตรงบริเวณเส้นเสียงนั้นจะอยู่ในจุดที่มีเส้นเลือดอยู่มาก จึงเป็นสาเหตุที่ผู้ป่วยมากจะไอและมีเลือดปนออกมากับเสมหะและเมือก โดยทั่วไปแล้วเนื้องอกในระยะแรกนั้นจะมีก้อนไม่ใหญ่มาก จึงไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นเลือดเลยไม่มีเลือดออก
5. หายใจลำบาก
เมื่อเนื้องอกลุกลามและมีขนาดใหญ่ขึ้นจนทำให้เกิดการปิดกลั้นตรงบริเวณหลอดลมโดยตรงจนทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะหายใจลำบาก อาการนี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยในระยะสุดท้ายของโรค
หากพบว่าตนเองมีอาการตามที่กล่าวข้างต้น ทุกคนควรรีบเดินทางไปตรวจที่คลินิกเฉพาะทางด้านหูคอจมูกโดยทันที ซึ่งการตรวจด้วยการส่องกล้องเพื่อดูว่ามีการเกิดก้อนเนื้อหรือไม่ หากตรวจพบเจอก้อนเนื้อแต่เนิ่นๆจะช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้น
เราจะป้องกันโรคมะเร็งคอได้อย่างไร?
อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งคอระยะแรกนั้นสูงถึง 80% ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตนั้นอยู่ที่เพียง 40% เท่านั้น ดังนั้นหากคุณพบว่าตนเองมีอาการใกล้เคียงกับโรคมะเร็งลำคอดังที่กล่าวไป ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจให้ไวที่สุด การเข้ารับการตรวจอย่างรวดเร็วนั้นสามารถช่วยให้เรารักษาการทำงานของเสียงไว้ได้ และช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้น
1. ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอร์ การสูบบุหรี่นั้นเป็นการทำลายอวัยวะโดยตรง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งคอ ยิ่งสูบบุหรี่นานเท่าไหร่ก็มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งคอมากขึ้นเท่านั้น
2. หากพบว่าตนเองเป็นโรคคออักเสบเรื้อรัง ควรรีบเข้ารับการรักษาโดยทันที เนื่องจากการอักเสบเรื้อรังหรือเมื่อเกิดการอักเสบของระบบทางเดินหายใจในบริเวณจุดเดิมซ้ำๆอาจกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งได้
3. รักษาความสะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส การติดเชื้อไวรัสนั้นมีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งคอ เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่าไวรัสนั้นสามารถทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์จนการแบ่งตัวที่ผิดปกติ ไวรัสสามารถยึดติดกับยีนส์ปกติและส่งต่อไปยังรุ่นถัดไปได้ ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเป็นสาเหตุของเซลล์มะเร็ง
4. สังเกตุรอยโรคก่อนเป็นเนื้อร้าย Laryngeal leukoplakia คือลักษณะรอยโรคที่เป็นปื้นสีขาวของโรคมะเร็งคอ เป็น Dyskeratosis ของเยื่อเมือกบริเวณเส้นเสียง ซึ่งมีลักษณะเป็นคราบสีขาวบริเวณเยื่อเมือก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาที่เกิดจากการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่นการติดเชื้อ การสูบบุหรี่ การถูกกระตุ้นด้วยแก๊สที่เป็นอันตราย หรือการใช้เสียงมากเกินไปเป็นต้น ซึ่งอาการดังกล่าวนั้นค่อนข้างเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งคอ และจำเป็นต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
5. ไม่รับประทานอาหารหมักดอง อาหารเปรี้ยว หรือเผ็ดมากเกินไป ไม่รับประทานอาหารที่เสียหรือค้างคืน ขึ้นรา พยายามรับประทานอาการที่ดีต่อสุขภาพ รับประทานผักและผลไม้มากกว่ารับประทานเนื้อ
6. หลีกเลี่ยงการตะโกน หรือการใช้เสียงดังมากเกิน เมื่อเราใช้เสียงมากเกินไปหรือไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดการบีบตัวหรือเลือดออกบริเวณเส้นเสียง ดังนั้นเราควรดูแลรักษาเสียงของเราให้ดีโดยเฉพาะเมื่อมีอาการเป็นไข้หรือหวัด
7. พยายามหลีกเลี่ยงและรู้จักการปลดปล่อยความเครียด
8. หากต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศไม่ดีควรเข้ารับการตรวจร่างกายเป็นประจำ
-
โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
-
โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
-
ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
-
ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ