• ปรึกษาหมอมะเร็งฟรี
  • วิธีการรักษาแบบใหม่
  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • เรื่องราวของผู้ป่วย
หน้าหลัก / ข่าวสารมะเร็ง

โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าผ่านเกณฑ์การตรวจสอบว่าเป็นโรงพยาบาลหลักที่เชี่ยวชาญด้านเฉพาะทาง ตาม “การวางแผน5ปีครั้งที่12” แห่งชาติ

None

Author:NoneFrom:FUDA

  เร็วๆนี้ สำนักงานคณะกรรมการอนามัยแห่งชาติได้รายงานสรุปผลการประเมินโครงการผลิตผู้เชี่ยวชาญทางคลินิก “การวางแผน 5 ปีครั้งที่12” แห่งชาติ โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนานได้รับการจัดอันดับรับรองว่าเป็นโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญทางคลินิกเฉพาะทางระดับชาติ

  

image001(2).jpg


  ที่ผ่านมา คณะกรรมการอนามัยแห่งชาติได้มอบหมายให้องค์กรอุตสาหกรรมแห่งชาติและ ศูนย์ควบคุมคุณภาพร่วมกันจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญการประเมิน ที่ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางการจัดการสุขภาพ การวิเคราะห์ข้อมูล และด้านข้อมูลสถิติ ในขณะเดียวกันได้จัดตั้งนักสถิติ นักการสาธนสุข และผู้เชี่ยวชาญทางคลินิกที่เกี่ยวข้อง

  จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ มี 4 โรงพยาบาลในมณฑลกว่างตุ้งที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางที่สำคัญแห่งชาติ ประกอบไปด้วย โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่าวโจว (โรงงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคมะเร็ง) โรงพยาบาลตงกว่านคางหัว(โรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง) โรงพยาบาลตงกว่านตงหัว(โรงพยาบาลเฉพาะทางทางเดินอาหาร) โรงพยาบาลเซินเจิ้นหัวเฉียวในสังกัดของวิทยาลัยแพทย์มหาวิทยาลัยจี้หนาน (โรงพยาบาบเฉพาะทางศัลกรรมมือ) ซึ่งโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้านับเป็นโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านมะเร็งแห่งเดียวที่ได้รับการยอมรับ

  

fuda30_560165.jpg


  ตั้งแต่ปี 2010 กระทรวงสาธารณะสุข (ปัจจุบันคือ คณะกรรมการการวางแผนสุขภาพแห่งชาติ) ได้เริ่มจัดตั้งและพัฒนาการประเมินผลโดยผู้เชี่ยวชาญด้านคลินิกเฉพาะทาง เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของระบบบริการทางการแพทย์ พัฒนาความสามารถในการบริการทางการแพทย์ให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มความมั่นคงของการจัดการภายในโรงพยาบาล และความเชี่ยวชาญเฉพาะของการบริการทางการแพทย์

  กรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านคลินิกใช้เกณฑ์การคัดเลือกค่อนข้างสูง ไม่ใช่โรงพยาบาลทุกแห่งจะสามารถเข้าร่วมได้ แต่ต้องมีเงื่อนไขตามที่กำหนดจึงจะสามารถส่งชื่อขอเข้าร่วมสมัครได้ ต้องเป็นโรงพยาบาลระดับสูงสุดในเมือง สามารถเป็นองค์กรอิสระที่พัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ในระดับแนวหน้าของประเทศ ผู้นำทางการศึกษาที่มีบทบาทหรือมีชื่อเสียงภายในประเทศ หรือทีมที่สามารถพัฒนาความสามารถพิเศษ โครงสร้างอายุ ความรู้ ชื่อเสียงรวมถึงโครงสร้างทางวิชาการที่เหมาะสม และมีทีมสำรองที่เหมาะสมและเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ รวมถึงอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และมีแผนกส่วนตัว อัตราการใช้เตียงมากกว่า 85% รายการการพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาอย่างอิสระมากกว่า 95% สามารถพัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์ต่างๆได้ รวมถึงจำนวนสัดส่วนของผู้ป่วยหนักมากกว่า 60% มีเทคนิคทางการแพทย์ที่มีอิธิทพลและการบริการทางการแพทย์ที่แข็งขันอีกด้วย

  ท้ายที่สุด กระทรวงสาธารณสุขยังต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เข้ารอบยังคงต้องผ่าน “เงื่อนไขทั้ง 6” ประกอบไปด้วย การตรวจสอบข้อมูล การตอบคำถาม การตรวจสถานที่ การตรวจสอบรายชื่อตามที่แจ้ง รายชื่อตามที่ประกาศ รวมถึงประกาศต่างๆอีกด้วย โดยผู้ที่ผ่านจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากกระทรวงสาธารณะสุขว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงโล่ประกาศเกียรติคุณอีกด้วย

  ตามรายงานการประเมินผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางระดับชาติ การเป็นผู้นำทางวิทยาศาสตร์ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ต้องมีการตรวจสอบระดับความรู้ทางการแพทย์ และเทคนิครักษา ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าด้านวิชาการต่างๆภายในประเทศ หัวหน้าองค์กรวิชาชีพในมณฑลต่างๆ รองประธานกรรมการ สมาชิกคณะกรรมการ หรือบรรณาธิการนิตยสารที่เกี่ยวข้อง รองบรรณาธิการ และผู้บริหารต่างๆจะได้รับคะแนนเพิ่มเติม ในขณะเดียวกัน โครงการวิจัยที่ได้รับการจดสิทธิบัตรและได้รับการตีพิมพ์ในช่วง 5 ปีนี้จะถูกนำมาร่วมพิจารณาด้วย

  นอกจากนั้น ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี การวินิจฉัยและการรักษาโรคนับเป็นสิ่งสำคัญในการประเมิน และจะต้องแจกแจงรายชื่อโครงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่ได้จัดทำในช่วง 5 ปีนี้ รวมถึงโครงการพิเศษที่สามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างน้อย 3-5 โครงการ พร้อมอธิบายผลสำเร็จของฐานะตำแหน่งทั้งในและต่างประเทศด้วย

  แผนกควบคุมผู้เชี่ยวชาญทางคลินิกแห่งชาตินับ 5 ปีเป็นหนึ่งรอบของการประเมินผล หากโรงพยาบาลใดไม่ผ่านการประเมิน จะถูกถอนชื่อออกจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และจะถูกประกาศยกเลิกในรอบถัดไป

  ในปี 2014 โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าเคยได้รับการประเมินให้เป็นโรงพยาบาลผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งสำคัญแห่งชาติ นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้ผ่านการตรวจสอบประเมินผลให้เป็นโรงพยาบาลหลักที่เชี่ยวชาญด้านคลินิกเฉพาะทาง ในโครงการ“การวางแผน 5 ปีครั้งที่12” แห่งชาติ

  เหตุผลที่ทำให้โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนานถูกจัดให้เป็นโรงพยาบาลหลักเฉพาะทางคลินิกระดับชาติ

  ในปีนั้น ผู้บริหารโรงพยาบาลอาศัยความสามารถทางโรคมะเร็ง ได้ก่อตั้งโรงพยาบาลเฉพาะทางโรคมะเร็งขึ้นมา โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนานก่อตั้งขึ้นช่วงที่เริ่มมีการประเมินผล โดยมี ศจ.สวีเค่อเฉิง เป็นประธานกิติมศักดิ์ และ ศจ.หนิวลี่จื้อ เป็นรองผู้อำนวยการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและการจัดการ และได้กำหนดให้ “ระบบการบริหารการจัดการสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านคลินิกแห่งชาติ” สรุปผลตามระยะอยู่เสมอ พร้อมกำหนดเป้าหมายและวางแผนให้ชัดเจน โดยใช้การรักษาแบบแผลเล็กซึ่งเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโยลีที่ทันสมัย และบุคลากรที่ได้รับการอบรมเป็นผู้เชี่ยวชาญให้เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนา มีแผนในการสร้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคือ ตั้งสาขาย่อยเฉพาะทางเพิ่มปีละ 1-2 สาขา เมื่อถึงปี 2016 ได้ 10 สาขาย่อย

  

image005.jpg


  การแนะนำและฝึกอบรมบุคลากร เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง  ศ.สวีเค่อเฉิง ศ.หนิวลี่จื้อ ศ.เจิงจงยวน ศ.หลี่ฉาวหลง และ ศ.หวางเจี้ยนหนานเข้ามารับผิดชอบเป็นหัวหน้าด้านการศึกษาเทคโนโลยี เพื่อก่อตั้งผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้า ต้นปีที่ผ่านมาก็ได้เชิญนายแพทย์หลัวหรงเฉิง และนายแพทย์หวางหยวนตงเข้ามาร่วมทีมสร้างความแข็งแกร่ง

  บนพื้นฐานของการรักษาโรคมะเร็งแบบดั้งเดิมเช่นการผ่าตัด ฉายแสงการให้เคมีบำบัด ทางโรงพยาบาลได้จัดหาการรักษาแบบแผลเล็ก รักษาด้วยมีดนาโน รักษาด้วยความเย็น การให้คีโมเฉพาะจุด พร้อมทั้งไม่หยุดที่จะศึกษาเรื่องเทคโนโลยีการสลายก้อนเนื้อ การตรวจยีน รวมถึงเทคนิคใหม่ๆ อย่างการรักษาแบบมุ่งเป้าเป็นต้น

  ในฐานะที่โรงพยาบาลอยู่ในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนาน ทางโรงพยาบาลได้จัดตั้งโครงสร้างผู้เชี่ยวชาญคิดค้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยี โครงการวิจัยทางแลกเปลี่ยนเทคนิคความรู้ระหว่างประเทศ พร้อมมุ่งมั่นที่จะสร้างโรงพยาบาลวิจัยทางการแพทย์โดยเฉพาะ นับตั้งแต่บ่มเพาะผู้เชี่ยวชาญทางโรงพยาบาลได้เพิ่มชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสะท้อนด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า เครื่องสลายก้อนเนื้อไฟฟ้าความต่างศักย์สูง เครื่อง CT กว่า 64 เครื่อง รวมถึงเครื่อง CT-DSA ไปจนถึงอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆทั้งสิ้น 2,642 ชุด ได้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม “1+5” Telemedicine ทั้งในและต่างประเทศ เวชระเบีบนระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบ BI สถานีพยาบาลเคลื่อนที่และระบะข้อมูล PIVAS อีกทั้งยังกะตือรือร้นและยกระดับในการสร้างความเชี่ยวชาญ ให้รุดหน้าอยู่เสมอ

  ความสำเร็จในการก่อสร้างงานวิจัย คือสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆหลายอย่างเข้ามารักษามะเร็ง นอกเหนือจากการพัฒนาประสิทธิภาพของการสลายก้อนเนื้อด้วยความเย็นอย่างต่อเนื่องแล้ว การแทรงแซงเส้นเลือดฝอย ทางโรงพยาบาลยังคงติดตามพัฒนาการของเทคโลยีต่างๆระหว่างประเทศอีกด้วย รวมถึงการนำเข้าเทคโนยีใหม่ล่าสุดอย่างมีดนาโน การให้เคมีบำบัด FOLFIRINOX สำหรับมะเร็งตับอ่อน การรักษามุ่งเป้าระดับโมเลกุล และปรับปรุงและพัฒนาการรักษาแบบดั้งเดิมอยู่เสมอ เช่นการผ่าตัดมะเร็งปอดโดยใช้กล้องวีดีทัศน์ เทคนิคการใช้ความเย็นรักษามะเร็งตับอ่อนให้หายขาด การผ่าตัดแบบเก็บหูรูดทวารหนักไว้สำหรับมะเร็งใกล้ทาวาร ERCPและการใส่Stent เข้าท่อน้ำดีตับ-อ่อนเป็นต้น ประสบความสำเร็จด้านการวิจัยและการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาหาลยด้าน (MDT) อายุรกรรมโรคมะเร็ง การรักษาแบบแผลเล็ก รวมถึงการรักษาด้วยการส่องกล้องที่ครอบคลุมถึงอนุสาขาต่างๆ

  ในปี 2011 โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนานได้รับเลือกให้เป็นโรงพยาบาลผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง ผ่านมาตรฐาน JCI ในปี 2014 อีกทั้งยังได้รับคะแนนสูงขึ้นจากการตรวจครั้งใหม่ ในปี 2017

  นวัตกรรมการวิจัยรวมถึงการรักษาต่างๆที่ช่วยพัฒนาโรงพยาบาลให้ดีขึ้น โดยทางโรงพยาบาลได้สร้างโครงการจิวัยต่างๆ มาแล้วมากกว่า 24 โครงการ และในปี 2013 ได้เพิ่มโครงการวิจัยมากขึ้นในกว่าปี 2010 เกือบสามเท่า ได้เผยแพร่เอกสารงานวิจัย SCI กว่า 12 ฉบับ เป็นผู้เขียนหลักหนังสือ “การรักษามะเร็งด้วยความเย็น” “มีดนาโน เทคโนโลยีการสลายก้อนเนื้อแบบใหม่” และ “การรักษามะเร็งด้วยความเย็นสมัยใหม่” และได้ร่วมเขียนหนังสือ “การรักษา intervention ด้วยCT” “มะเร็งตับอ่อนระยะลุกลาม” “พยาธิสรีรวิทยาและการรักษาก่อนการผ่าตัด”

  เมื่อเร็วๆมานี้ทางโรงพยาบาลได้ทำการรักษาเนื้องอกที่มีความยาวเส้นศูนย์กลางกว่า 2 ซม. ด้วยวิธีการสลายก้อนเนื้อด้วยความเย็นและมีดนาโน


image007.jpg


  การรักษาด้วยความเย็นโดยใช้มีดอาร์กอนนั้นสามารถใช้กับการรักษามะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งที่อยู่ในเนื้อทึบ สำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายที่ไม่ใช่แบบเซลล์เล็กนั้น หลังเข้ารับการรักษาด้วยความเย็นอัตราการอยู่รอดจะเฉลี่ยอยู่ที่ 14 เดือน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพดีกว่ากลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาด้วยความเย็น (เฉลี่ยอยู่ที่ 7 เดือน) สำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยความเย็นร่วมกับเคมีบำบัด อัตราการอยู่รอดจะเฉลี่ยอยู่ที่ 27 เดือน ซึ่งมีอัตรานานกว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีอื่น สำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย การเข้ารับการรักษาด้วยความเย็นจะมีอัตราการอยู่รอดโดยเฉลี่ยประมาณ 26 เดือน ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาด้วยความเย็น (อัตราการเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5 เดือน) และสำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยความเย็นร่วมกับการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 32 เดือนเลยทีเดียว สำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้าย หลังจากเข้ารับการรักษาด้วยความเย็นจะมีอัตราเฉลี่ยการอยู่รอดอยู่ที่ 8 เดือน ซึ่งมากกว่าผู้ที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาด้วยความเย็นถึง 4 เดือน ทางโรงพยาบาลได้ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์จำนวน 100 ฉบับ ซึ่งเป็นในจำนวนนั้นนับเป็นวิทยานิพนธ์ SCI จำนวน 50 ฉบับ ซึ่งโดยหลักๆแล้วเป็นเนื้อหาเรื่อง “การรักษามะเร็งด้วยความเย็น” ฉบับภาษาจีน-อังกฤษ ซึ่งได้รับรางวัลนานาชาติมากมาย อีกทั้ง ศ.สวี่เค่อเฉิ้ง และ ศ.หนิวลี่จื้อต่างก็ได้รับเชิญให้ไปพูดบรรยายในยุโรป เพื่อก่อตั้งสนามคมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย และทั้งคู่ยังได้รับเลือกให้เป็นประธานและรองประธานของสมาคมรักษาด้วยความเย็นแห่งนานาชาติอีกด้วย

  มีดนาโน เป็นเทคโนโยลีการสลายก้อนเนื้อที่ได้รับการรับรองจาก FDA และ CE จากประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2012 เป็นการรักษาโดยการใช้เข็มขั้วไฟฟ้า เจาะเข้าไปที่ก้อนเนื้อและปล่อยไฟฟ้าระดับนาโนเข้าทำให้เยื่อหุ้มเซลล์มะเร็งทะลุเป็นรูแล้วเหี่ยวฉาวตายในที่สุด เมื่อเทียบกับคลื่นวิทยุ คลื่นไมโครเวฟ คลื่นความร้อนและความเย็น มีข้อดีดังนี้ 1.จะไม่ทำให้เกิดความร้อนหรือเย็น มีผลกระทบต่อร่างกายเพียงเล็กน้อย 2.ไม่ไปกระทบกับเส้นเลือดใหญ่ ผนังกระเพาะอาหารและลำไส้ ท่อไตและระบบประสาท ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับเนื้องอกที่อยู่ใกล้บริเวณโครงสร้างเหล่านี้ 3.ไม่ถูกกระทบจากการไหลเวียนโลหิต 4.ขอบเขตการสลายชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเว้นระยะ 1-2 มล. เพื่อเป็นเขตปลอดภัย ลดผลผลกระทบต่อเซลล์ปกติ 5.เซลล์เนื้องอกหลักจะถูกทำลาย หลั่งสารไซโตไคน์เนื้อตายออกมาน้อย และจะส่งผลต่อปฏิกิริยาหลังการผ่าตัดเพียงเล็กน้อย 6.หลังจากได้รับการสลายก้อนเนื้อจะตาย จะมีการหลั่งสารแอนติเจนเพื่อส่งเสริมภูมิคุ้มกันในการต่อต้านเนื้องอก


  • โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
  • โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
  • ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
  • ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ