ยืนหยัด 7 ชั่วโมง! ฟูด้าประสบความสำเร็จในการผ่าตัดมะเร็งตับระยะสุดท้ายขนาดใหญ่ประเภทที่พบได้ยาก
None
Author:FUDA
From:“ขอบคุณมากๆครับ ตอนที่เห็นพ่อพื้นขึ้นมาหลังจากการผ่าตัด ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมช่วยชีวิตพ่อผมเอาไว้” ลูกชายของนายเผยผู้ป่วยที่โรงพยาบาลกล่าวด้วยความตื่นเต้น เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ดร. นพ.มู่เฟิง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนาน และศจ. หวางเจี้ยนหนาน หัวหน้าศัลแพทย์ตับและท่อน้ำดี ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดให้กับผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้ายชาวเวียดนาม
เป็นที่รู้กันว่าการผ่าตัดมะเร็งตับครั้งนี้นั้นยากและซับซ้อนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากเนื้องอกนั้นเบียดไปทั่วผนังช่องท้องกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่ ฉะนั้นการผ่าตัดไม่เพียงแต่การนำก้อนเนื้อออกเท่านั้น แต่ยังต้องระวังอวัยวะโดยรอบด้วย ถ้าหากไม่ระมัดระวัง อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ความสำเร็จในการผ่าตัดครั้งนี้ได้ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแรงของวิทยาการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก และถือเป็นประสบการณ์ที่ดีของสาขาตับและท่อน้ำดีกับการผ่าตัดมะเร็งตับที่ซับซ้อนขนาดนี้
ผู้ป่วยมะเร็งตับขนาดใหญ่ ที่ถูกปฏิเสธการรักษา
นายเผย ชาวเวียดนามวัย 55 ปีผู้มีประวัติเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีมาหลายปี สิงหาคมปีที่แล้วมีอาการมีไข้โดยไม่รู้สาเหตุบางครั้งก็มีอาการปวดท้อง ท้องอืด หลังจากการตรวจการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับ แพทย์ที่โรงพยาบาลในเวียดนามแนะนำให้เขาเข้ารับการผ่าตัด แต่นายเผยได้ปฏิเสธ ต่อมาได้เข้ารับการรักษาแบบอุดเส้นเลือดเฉพาะจุด และใช้ยามุ่งเป้า แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว นายเผยได้ไปเข้ารับการรักษาด้วยวิธีอุดเส้นเลือดเฉพาะจุดและการรักษาด้วยคลื่นไมโครเวฟที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกว่างโจว อย่างไรก็ตามอาการก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และก้อนเนื้อก็โตขึ้นกว่าแต่ก่อน
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาผลตรวจว่าเนื้องอกนั้นได้โตขึ้นจากเดิมขนาด 7*8 ซม. เป็นขนาด 14*10 ซม. ในเวลาเพียงครึ่งปี “พวกเราเปลี่ยนโรงพยาบาลหลายแห่ง แต่อาการของพ่อก็ยังไม่ดีขึ้น แล้วก้อนเนื้อก็ขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่ไหนยอมรักษาให้พ่อผมอีกแล้ว” ลูกชายนายเผยกล่าว นายเผยผู้หมดหวังได้รับคำแนะนำให้มารักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนาน“ก้อนเนื้อใหญ่ขนาดนี้ ยังผ่าตัดได้อีกเหรอ?” นายเผยถามด้วยความสงสัย ตอนที่ ดร. นพ.มู่เฟิงพบกับผู้ป่วยชาวเวียดนามวัย 55 ปีท่านนี้ อาการของนายเผยก็หนักมากแล้ว “เขาอ่อนแอไปทั้งร่างกาย ช่วงท้องก็นูนออกมา กินอาหารไม่ได้ แม้กระทั่งดื่มน้ำเข้าไปก็อาเจียนออกมาหมด”
สิ่งที่ทำให้นายเผยรู้สึกหมดหวังที่สุดก็คือ เนื่องจากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่มาก หลายโรงพยาบาลจึงปฏิเสธที่จะให้การรักษากับเขา “โรงพยาบาลหลายแห่งพอเห็นว่าก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่มาก ความเสี่ยงสูง จึงไม่กล้าที่จะทำการผ่าตัดให้เขา” ญาติของนายเผยกล่าว หลังการตรวจ ศ.หวางเจี้ยนหนานและ ดร. นพ.มู่เฟิงได้จัดทีมแพทย์ปรึกษากันทันที สรุปได้ว่าคนไข้มะเร็งตับท่านนี้ “สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้”
ช่องท้องที่นูนออกมาของผู้ป่วย
ดร. นพ.มู่เฟิงกล่าวว่า “หลังจากตรวจอย่างละเอียดแล้วพบว่าก้อนเนื้อของผู้ป่วยอยู่ที่ตับด้านซ้าย และอยู่ในระยะสุดท้ายของเฉพาะที่ ไม่พบการลุกลามไปยังตับด้านขวา ยังมีโอกาสสำหรับการผ่าตัดอยู่ ถึงแม้จะมีความเสี่ยงมาก แต่เมื่อคำนึงถึงประโยชน์ที่ผู้ป่วยจะได้รับหลังการผ่าตัด พวกเราจึงตัดสินใจลงมือผ่าตัดครั้งนี้”
แต่อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดครั้งนี้ก็ยังยากและมีความซับซ้อนอยู่มาก “ผู้ป่วยมีน้ำหนักเพียงแค่ 43 กิโลกรัมเท่านั้น และยังมีประวัติเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีเป็นเวลานาน การทำงานของตับค่อนข้างน้อย ก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่ถึง 14*10 ซม. นับเป็นมะเร็งตับที่พูซ้าย เบียดกระเพาะอาหารลำไส้ใหญ่ด้านขวางและตับอ่อน และยังเบียดไปยังอวัยวะโดยรอบ และเส้นเลือด ยึดเกาะกับเนื้อเยื่อรอบๆอย่างแน่นหนา ซึ่งยากต่อการผ่าตัดอย่างมาก” นอกจากนั้นผู้ป่วยเคยมีประวัติผ่าตัดท่อน้ำดีซึ่งเพิ่มความยากสำหรับการลอกก้อนเนื้อออกจากเนื้อเยื่อโดยรอบ หากไม่รอบคอบเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ดร.นพ.มู่เฟิง กล่าวกับผู้เขียน
ศ. หวางเจี้ยนหนาน ดร.นพ. มู่เฟิง และทีมผ่าตัดได้ประชุม วิเคราะห์ และใช้คอมพิวเตอร์ซอฟแวร์แบบสามมิติเพื่อทำการประเมินก่อนการผ่าตัดหลายครั้ง จัดเตรียมแผนการผ่าตัดหลายแบบอย่างละเอียด คาดการ์ณเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นขณะทำการผ่าตัด และพูดคุยกับผู้ป่วยและญาติอยู่ตลอด “คาดว่าจะมีเลือดออกในช่องท้องระหว่างการผ่าตัด พวกเราจึงได้เตรียมเลือดจำนวน 2000 มล. ไว้ก่อนการผ่าตัด” ดร. นพ.มู่เฟิงกล่าว
ภาพ CT สแกนก่อนเข้ารับการผ่าตัด
กำหนดการผ่าตัดคือเช้าวันที่ 3 เดือนเมษายน เวลา 09.00 น. แพทย์ผู้ผ่าตัดคือ ศ.หวางเจี้ยนหนาน และ ดร.นพ. มู่เฟิงเป็นผู้ช่วยแพทย์มือหนึ่ง ศ. สวีเค่อเฉิง ประธานกิตติมศักดิ์ของโรงพยาบาลได้เข้ามาดูกระบวนการผ่าตัดในครั้งนี้ด้วย ตามที่ ดร. นพ.มู่เฟิงได้กล่าวว่า “ในระหว่างการผ่าตัด เมื่อเปิดผนังหน้าท้องของคนไข้แล้วจึงเห็นว่าการยึดของก้อนเนื้อกับเนื้อเยื่อค่อนข้างแน่นมาก เนื้อเยื่อรอบก้อนเนื้อมีเส้นเลือดอยู่เยอะมาก ซึ่งเลาะออกยากมาก ถ้าไม่ระมัดระวังให้ดีอาจเกิดภาวะเลือดออกระหว่างการผ่าตัด เนื้องอกขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับขั้วตับ ซึ่งอาจทำให้เลือดออกตรงขั้วตับได้ นี้เป็นส่วนที่เสี่ยงต่อชีวิตของผู้ป่วยมากๆ และนับเป็นจุดที่ยากที่สุดของการผ่าตัดอีกด้วย”นอกจากนั้น ผู้ป่วยมีน้ำหนักตัวเพียงแค่ 43 กิโลกรัม “ยิ่งน้ำหนักตัวเบา ยิ่งต้องระมัดระวังการสูญเสียเลือดเป็นอย่างมาก และเพิ่มความเสี่ยงในการผ่าตัดอีกด้วย”ด้วยความร่วมมือของ ศ.หวางเจี้ยนหนานผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดตับและท่อน้ำดี ดร. นพ.มู่เฟิงผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัด ทรวงอก วิสัญญีแพทย์ รวมถึงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์อีก 9 คน ได้พยายามอย่างสุดความสามารถจนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการเลาะเนื้อเยื่อออก และผ่าก้อนเนื้ออกจากเนื้อเยื่อในเวลา 7 ชั่วโมง ดร. นพ.มู่เฟิงกล่าวว่า “เนื่องจากก้อนเนื้อเบียดลำไส้ใหญ่ ระหว่างผ่าตัดจึงต้องผ่าเอาเนื้องอกขนาด 15 ซม.ตรงลำไส้ใหญ่ออก ดังนั้นพวกเราจึงสร้าง“ช่อง”ระหว่างลำไส้เล็กและกะเพาะอาหาร เพื่อแก้ปัญหาในการทานอาหารของผู้ป่วย”
เวลา 16.00 น. การผ่าตัดลุล่วงด้วยดี แพทย์พยาบาลต่างก็รู้สึกสบายใจไปตามๆกัน ถึงแม้ในระหว่างการผ่าตัดจะเต็มไปด้วยความกดดัน แต่ที่โชคดีก็คือ ผลการผ่าตัดออกมาดีกว่าที่คิดไว้มาก หลังจากออกจากห้องผ่าตัด ดร. นพ.มู่เฟิงกล่าวด้วยความยินดีว่า ในระหว่างการผ่าตัด ชีพจรของผู้ป่วยคงที่มาก นี้เกิดการความร่วมมือของทีมวางยาสลบ การใช้ยาสลบ รวมถึงการทำงานของด้านต่างๆ ด้วย เช่นการปรับความดันโลหิตให้คงที่ และความร่วมมือของทีมผ่าตัด จึงจะสามารถประสบความสำเร็จในการผ่าตัดที่ยากขนาดนี้ได้
ญาติผู้ป่วยมอบกระเช้าผลไม้แทนคำขอบคุณ
หลังจากการผ่าตัด ครอบครัวของนายเผยได้มอบกระเช้าผลไม้ให้กับพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เพื่อแสดงความขอบคุณ ลูกชายของนายเผยกล่าวด้วยความตื้นตันว่า “ตอนแรกคิดว่าพ่อจะไม่มีความหวังในการรักษาแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้ชีวิตกลับมาอย่างนี้
คุณเผยหลังผ่าตัด(คนที่สามจากซ้าย)
สวีเค่อเฉิงประธานของรพฬมะเร็งฟูด้า(คนแรกจากซ้าย)เยี่ยมคุณเผยหลังการผ่าตัด
-
โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
-
โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
-
ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
-
ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ