หน้าหลัก / ข่าวสารมะเร็ง

ใครบ้างคือ “กลุ่มเสี่ยงมะเร็งปอด” ?

None

Author:NoneFrom:FUDA

ny24_282887.jpg


  มะเร็งปอดยังคงเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก คิดเป็น 1 ใน 5 ของการเสียชีวิตจากมะเร็งทั้งหมด ในประเทศไทย มะเร็งปอดพบมากในเพศชายและยังเป็นสาเหตุสำคัญที่พบในเพศหญิงเช่นกัน สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ป่วยใหม่กว่า 70% ถูกพบในระยะที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคแพร่กระจายแล้ว ทำให้โอกาสรักษาหายลดลงอย่างน่าเสียดาย

  การเข้าใจว่าตนเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ รวมถึงการตรวจคัดกรองอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ

  “กลุ่มเสี่ยงมะเร็งปอด”

  1) ผู้ที่สูบบุหรี่หรือเคยสูบ           สาเหตุใหญ่ที่สุดของมะเร็งปอดถึง 85–90% มาจากการสูบบุหรี่ รวมถึงผู้ที่ไม่ได้สูบเองแต่สัมผัสควันบุหรี่เป็นประจำ

  2) ผู้มีอายุมากกว่า 50–65 ปีขึ้นไป           ยิ่งอายุมาก ความเสี่ยงสะสมยิ่งสูง โดยเฉพาะช่วงอายุประมาณ 70 ปีเป็นต้นไป

  3) ผู้ที่เคยติดเชื้อ COVID-19 อย่างรุนแรง หรือมีอาการเรื้อรังหลังติดเชื้อ           แม้ COVID-19 ไม่ได้ “เพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งปอดโดยตรง” แต่ความเสียหายระยะยาวต่อปอด เช่น การอักเสบเรื้อรัง แผลเป็นในเนื้อปอด การทำงานของปอดลดลง รวมถึงภูมิคุ้มกันที่อ่อนลงในผู้สูงอายุ ล้วนทำให้ปอดอ่อนแอและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สัมพันธ์กับโอกาสเกิดความผิดปกติของเซลล์ในระยะยาว

  4) ผู้ที่สัมผัสก๊าซเรดอนในบ้านหรืออาคารอับอากาศ           ก๊าซเรดอนเป็นสารกัมมันตรังสีตามธรรมชาติที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดได้ แม้ในผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ก็ตาม

  5) ผู้ทำงานหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสารก่อมะเร็ง           เช่น แร่ใยหิน ควันไอเสีย อาเซนิค ยูเรเนียม หรือสารเคมีอุตสาหกรรมต่าง ๆ

  6) ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอด           ปัจจัยทางพันธุกรรมสามารถเพิ่มความเสี่ยงได้อย่างมีนัยสำคัญ

  7) ผู้ที่อาศัยในพื้นที่มลพิษสูง           ควันจากการเผาไหม้ ฝุ่น PM2.5 ควันยานพาหนะ และมลพิษอุตสาหกรรมล้วนเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งปอดในระยะยาว

  ผู้ที่เคยป่วยหนักและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือมี “Long COVID” ควรติดตามสุขภาพปอดอย่างสม่ำเสมอ


  อาการเตือนของมะเร็งปอดที่ไม่ควรมองข้าม

  ·  ไอเรื้อรัง หรือไอมีเลือดปน

  ·  เจ็บหน้าอกโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน

  ·  หายใจลำบาก หายใจสั้น

  ·  น้ำหนักลดรวดเร็วแบบไม่ทราบสาเหตุ

  ·  เหนื่อยง่าย อ่อนแรงผิดปกติ


  การพบอาการเหล่านี้เร็วยิ่งเพิ่มโอกาสรักษาหายได้มากขึ้น

  บทสรุป การรู้เท่าทันความเสี่ยงคือการป้องกันที่ดีที่สุด

  ·  ตรวจสอบว่าตนเองเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงหรือไม่

  ·  หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้

  ·  เลือกการตรวจคัดกรองที่เหมาะสม โดยเฉพาะ LDCT ในผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปและสูบบุหรี่

  ·  สังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย

  ·  ผู้ที่เคยติด COVID-19 แบบรุนแรงควรใส่ใจสุขภาพปอดเป็นพิเศษ


  มะเร็งปอดสามารถรักษาหายได้ หากตรวจพบในระยะเริ่มต้น การรู้ความเสี่ยงของตัวเองจึงเป็น “ก้าวแรกที่สำคัญที่สุด” สำหรับการป้องกันและรักษาชีวิตตนเองอย่างแท้จริง




  ปรึกษาโรคมะเร็ง

  หากคุณต้องการทราบว่าผู้ป่วยเหมาะสำหรับการรักษาแบบบาดแผลเล็กหรือไม่ (การรักษาด้วยความเย็น  การรักษาด้วยมีดนาโน  การรักษาเฉพาะจุดแบบอุดตันเส้นเลือด ฯลฯ) และค่าใช้จ่ายในการรักษา  กรุณากรอกข้อมูลผู้ป่วย เพื่อรับคำแนะนำจากทีมแพทย์มะเร็งผู้เชี่ยวชาญของเรา


รับคำแนะนำจากแพทย์


  • โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
  • โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
  • ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
  • ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ