บทนำ

　　อย่างที่เราทราบกันดีว่ามะเร็งปอดนั้นเป็นโรคที่พบได้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะทั้งเพศหญิงหรือเพศชาย ล้วนมีอัตราการเสียชีวิตสูงจากโรคนี้ โดยปกติแล้วผู้ป่วยมักจะไม่มีอาการใดๆในระยะแรก หรือมีอาการเหมือนโรคทางเดินหายใจทั่วไป เช่นไอ ไอมีเสมหะ หรือ ไอแล้วมีเลือดปนกับเสมหะเป็นต้น ผู้ป่วยที่ตรวจเจอโรคมะเร็งปอด 70-80% มักอยู่ในระยะกลางถึงระยะสุดท้าย มะเร็งเน็ต (Neuroendocrine tumor) บริเวณปอดซ้ายเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในโรคมะเร็งชนิดมะเร็งเน็ต ต้นกำเนิดมาจากลำไส้ส่วนต้น อัตราการเกิดอยู่ที่ 1.35/100，000 Neuroendocrine tumor ที่ปอดนั้นเป็นชนิดที่มีเอกลักษณ์ และนับเป็น 25% ของ Neuroendocrine tumor ทั้งหมด เมื่อไม่นานมานี้โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนานได้มีผู้ป่วยมะเร็ง Neuroendocrine tumor ที่ปอดจากประเทศอินเดียเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

　　อาซาริและภรรยา

　　อาซาริ (นามสมมุติ) เป็นผู้ให้สัมภาษณ์กับทางเราในวันนี้ เขามาจากนิวเดลี ประเทศอินเดีย เป็นผู้ป่วยมะเร็ง Neuroendocrine ที่ปอดด้านซ้าย และมีเนื้อร้ายที่บริเวณตับ ต่อมน้ำเหลือง ต่อมหมวกไตข้างซ้าย และกระดูก

　　Q： สวัสดีครับคุณอาซาริ ช่วยแนะนำตัวกับพวกเราหน่อยได้ไหมครับ？

　　A： ผมชื่ออาซาริ (นามสมมุติ) มาจากนิวเดลี ประเทศอินเดีย ผมเป็นนักธุรกิจ ปีนี้อายุ 55 ปีแล้ว ผมและภรรยามีลูกชาย 1 คน ลูกสาว 1 คน ลูกสาวคนโตของผมกำลังจะได้งานทำ ส่วนลูกชายคนเล็กของผมกำลังช่วยทำธุรกิจของครอบครัว พวกเรามีความสุขมากๆครับ

　　Q： คุณอาซาริปกติแล้วมีงานอดิเรกอะไรบ้างไหมครับ？A： ปกติผมชอบเล่นปิงปองและแบดมินตันมากเลยครับ อาจจะเป็นเพราะคุณพ่อของผมเคยเป็นทหาร ผมจึงได้รับความแข็งแรงทางร่างกายมาจากท่าน ดังนั้นผมจึงค่อนข้างเก่งเรื่องกีฬาต่างๆ ในช่วงที่เรียนหนังสือผมก็มักจะเข้ารับกิจกรรมกีฬาของโรงเรียน และก็เริ่มชอบปิงปองมากขึ้นเรื่อยๆ แต่พอโตขึ้นงานอดิเรกของผมก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับงาน ไม่ได้มีเวลาให้สิ่งที่ตัวเองชอบทำสักเท่าไหร่แล้ว แต่พอมีเวลาว่างก็มักจะไปดูหนังกับครอบครัว ดูการแสดง ตกปลา ออกไปเที่ยวเป็นทริปสั้นๆกับครอบครัวหรือเพื่อน ผมชอบท่องเที่ยวมากๆ ถึงแม้ร่างกายจะไม่แข็งแรงเท่าเมื่อก่อนแต่ผมก็ยังใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

　　Q： ช่วงนี้ผมได้ยินข่าวเรื่อง “มลพิษทางอากาศ” ในนิวเดลี ไม่ทราบว่าคุณได้ตามข่าวเรื่องนี้บ้างไหมครับ？A： เนื่องจากผมและภรรยาต้องเดินทางมาตรวจซ้ำที่ฟูด้าก่อนเกิดเรื่อง แต่ผมก็ติดตามข่าวจากทางอินเดียอย่างใกล้ชิด เพราะว่าครอบครัวของผมล้วนอยู่ที่นั่น ผมจึงกังวลมากๆ เมื่อก่อนในช่วงประมานเดือนพฤษจิกายนถึงธันวาคมของทุกปีมักจะมีเหตุการอย่างนี้เกิดขึ้น แต่ไม่ร้ายแรงเท่ากับครั้งนี้ ผมคิดว่ารัฐบาลของเราได้กำลังตรวจสอบและวิจัยปัญหาทางด้านนี้อยู่ ซึ่งอีกไม่นานจะมีมาตรการแก้ไขที่สามารถควบคุมเรื่องนี้ได้

อาซาริและคุณหมอ

　　Q： คุณอาซาริตรวจเจอโรคของตนเองตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ร่างกายมีอาการอย่างไรบ้าง？A： ช่วงประมานเดือนมีนาคมปี 2018 ครับ วันนั้นตอนเช้าผมกำลังเดินทางไปตามนัดเพื่อนที่สวนสาธารณะเพื่อเล่นปิงปอง ผมรู้สึกว่ามีอาการเจ็บที่เอวหลังด้านขวา และเจ็บแปลบๆที่ช่วงอก ตอนนั้นผมคิดว่าเกิดจากการเล่นกีฬา แต่อาการปวดก็ยังคงมีต่อมาเรื่อยๆ ผมจึงเข้าไปพบคุณหมอ เมื่อคุณหมอได้ฟังอาการที่ผมเล่าไปจึงได้ตรวจอัลราซาวด์และ CT SCAN จากฟิล์ม CT SCAN พบเนื้องอกที่บริเวณปอดและกระเพาะ เพื่อตรวจดูว่าเนื้องอกนั้นเป็นมะเร็งหรือไม่ คุณหมอได้แนะนำให้ผมเข้ารับการตรวจชิ้นเนื้อ ซึ่งผลออกมาว่าเป็นเนื้อร้าย และเป็นมะเร็งระยะที่ 3 แล้ว

　　Q： หลังจากทราบว่าตนเองเป็นมะเร็งระยะที่ 3 คุณอาซาริและครอบครัวรู้สึกอย่างไรบ้างครับ？

　　A： ครอบครัวผมช็อกมากเลยครับ ส่วนตัวผมเองนั้นรู้สึกไม่เข้าใจอย่างมาก ว่าโรคมะเร็งมาเกิดกับผมได้อย่างไร เพราะผมรู้สึกว่าตนเองนั้นเป็นคนที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงมาก ผมให้ความสำคัญทั้งเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย ผมไม่เข้าใจว่าปัญหามันเริ่มจากตรงไหน หลังจากตรวจสอบทุกด้านก็พบว่าร่างกายของผมนั้นมีปัญหา ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ ภรรยาและลูกๆล้วนแต่ให้กำลังใจและสนับสนุนผมอย่างดี ทุกคนล้วนเป็นกำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้ายของผม

　　Q： หลังจากตรวจเจอโรคแล้วได้ทำการรักษาอะไรที่อินเดียบ้างไหมครับ？A： ในเดือนมีนาคมถึงเมษายน ปี 2018 คุณหมอได้ให้คีโมผมแล้ว 3 รอบ แต่ก้อนเนื้อก็ไม่ได้เล็กลง หลังจากนั้นคุณหมอจึงได้เปลี่ยนยาให้ ในเดือนกันยายน ปี 2018 ถึงเดือนเมษายน ปี 2019 ผมได้รับประทานยาคีโมตลอด แต่อาการก็ไม่ได้ดีขึ้นนัก ดังนั้นผมจึงหยุดเข้ารับคีโมและมองหาแนวทางการรักษาอื่นๆ

　　Q： หลังจากค้นหาวิธีการรักษาใหม่ๆแล้วคุณอาซาริรู้จักกับฟูด้าได้อย่างไรครับ？A： ในตอนที่ผมกำลังปวดหัวกับการตามหาที่ใหม่ๆอยู่นั้นเพื่อนของผมก็บอกว่าเคยมีเพื่อนของเขาเคยมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า หลังจากได้ติดต่อกับเพื่อนของเขาแล้ว ผมก็สอบถามข้อมูลจากเขา หลังจากนั้นก็ไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ต หลังจากนั้นผมก็มาคิดว่าต่อให้ใช้คีโมก็ยังไม่ได้ผล ผมลองไปสู้วิธีการรักษาใหม่ๆซะดีกว่า หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคมผมก็เดินทางมาที่ฟูด้า และเข้ารับการรักษาด้วยความเย็น ครั้งนี้เดินทางมารักษาที่ฟูด้าก็เพื่อทำการตรวจซ้ำรวมถึงเข้ารับคีโมเฉพาะจุดครั้งที่ 4

　　อาซาริเข้ารับการรักษาด้วยความเย็นที่บริเวณปอดในวันที่ 22 สิงหาคม ปี 2019 และเข้ารับการรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุดที่บริเวณปอดและตับในวันที่ 29 สิงหาคม ปี 2019 และได้เข้ารับการตรวจชิ้นเนื้อที่บริเวณตับนวันที่ 20 กันยายน ปี 2019 จากนั้นได้เข้ารับการรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุดที่บริเวณปอดและตับในวันที่ 21 กันยายน ปี 2019 และได้เข้ารับคีโมครั้งที่ 3 ในวันที่ 11 ตุลาคม ปี 2019

　　Q： เมื่อสักครู่คุณกล่าวว่านี้เป็นการเข้ารับการรักษาครั้งที่ 4 ของคุณ หากเปรียบเทียบกับการรักษาครั้งก่อนๆ ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง？

　　A： หากเปรียบเทียบกับการรักษาก่อนที่จะมาที่ฟูด้า ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ เมื่อก่อนแค่เดินประมาณ 10 ก้าวผมก็ไม่ไหวแล้ว แต่ตอนนี้เดินได้ปกติไม่มีอาการเจ็บปวดแล้ว ผมดีใจมากที่ตอนนี้สามารถพาภรรยาไปเดินข้างนอก พาเธอไปเดินตลาดซื้อกับข้าว สามารถพาเธอไปสวนศาธารณสูดอาการบริสุทธิ์ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ของฟูด้าทุกคน หากไม่มีพวกเขาคอยดูแลผม ตอนนี้ผมคงทำได้แค่นอนอยู่บนเตียง ผมรู้สึกขอบคุณทุกคนมากจริงๆ ทุกคนคอยตอบปัญหาของผมด้วยความเต็มใจ เข้ารับการรักษาที่นี้ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของเจ้าหน้าที่ และขอบคุณทุกคนมากๆที่คอยช่วยเหลือพวกเรา

　　Q： หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมาหลายปี ความคิดต่อโรคนี้ของคุณเปลี่ยนไปบ้างไหมครับ？A： เมื่อก่อนพอได้ยินเกี่ยวกับโรคมะเร็งผมก็รู้สึกกลัวครับ ตอนแรกที่ได้ยินว่าตนเองมีเนื้องอกในร่างกายก็ช็อก เมื่อก่อนผมคิดว่าตัวเองป็นคนที่แข็งแรงมาก เพราะผมมักจะออกกำลังกายในตอนเช้า ตีปิงปองบ่อยๆ แต่หลังจากมาเป็นผู้ป่วย ถึงได้ทราบว่าจริงๆแล้วโรคมะเร็งนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ในเมื่อมันเกิดเรื่องแล้วเราก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เราก็ต้องมีความหวังและสู้ต่อไป

　　ในเมื่อเราไม่สามารถเลือกการเจ็บป่วยได้ เราก็ต้องเลือกวิธีที่จะรับมือกับมัน ถ้าการรักษามะเร็งให้หายขาดมันยากเกินเราก็ต้องหาวิธีที่จะเผชิญหน้ากับมัน การแพทย์ในปัจจุบันนั้นพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตโรคมะเร็งอาจเป็นโรคที่รักษาได้ หากได้เข้ารับการรักษาที่ถูกต้อง ผู้ป่วยบางคนก็สามารถอยู่ร่วมกับโรคมะเร็งได้ทั้งชีวิต ที่สำคัญคือต้องตรวจซ้ำเป็นประจำ ปฏิบัติตามวิธีการรักษาอย่างเหมาะสม ก็สามารถอยู่กับโรคได้ได้แข็งแรงเช่นกัน ยิ่งคุณมองโลกในแง่ดีมากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็จะมีความหวังในการรักษามากขึ้นเท่านั้น！