วันที่ 8 พฤษจิกายน ปี 2018 คุณหลิวคนไข้ชาวมาเลเซียกำลังเก็บของเตรียมกลับบ้าน เขาเป็นคนดูดีหุ่นกำยำ ผิวสีออกแดงก่ำ มองจากภายนอกเหมือนคนสุขภาพดีทั่วไป

　　ในเดือนพฤษภาคม ปี 2017 คุณหลิวได้เข้าไปตรวจที่โรงพยาบาลในท้องถิ่นเนื่องจากขับถ่ายแล้วมีเลือดออกมา จากผลตรวจชิ้นเนื้อพบว่าเขาเป็นมะเร็งลำไส้ตรงระยะ 3 และเข้ารับการผ่าตัดลำไส้ตรงในเดือนมิถุนายน การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี จนกระทั่งเดือนกันยายนปี 2018 คุณหลิวได้ตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลและพบว่ามีการแพร่กระจายของโรคมะเร็งมายังบริเวณตับหลายจุด แม้กระทั่งโรงพยาบาลมะเร็งที่ดีที่สุดในประเทศมาเลเซียก็ทำได้เพียงแนะนำให้เขาเข้ารับการให้คีโม แต่จะสามารถควบคุมโรคได้เพียงแค่ 20% เท่านั้น ถูกคาดการณ์ว่าจะมีอายุต่อได้เพียงแค่ 2-3 ปีเท่านั้น หลังจากทราบข่าว คุณหลิวก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคมะเร็งเพื่อศึกษาข้อมูลการรักษา จนได้รู้จักกับคนคนหนึ่งซึ่งได้แนะนำโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าให้กับเขา แต่ในตอนนั้นคุณหลิวไม่ได้เชื่อตั้งแต่แรก เขายังคงค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงพยาบาลต่อไป พร้อมเปรียบเทียบข้อมูลของแต่ละโรงพยาบาลอย่างรอบครอบ ก่อนตัดสินใจเดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า          ด้านญาติๆและครอบครัวของคุณหลิวคิดว่าการไปรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากับเข้ารับการรักษาด้วยคีโมที่มาเลเซียนั้นไม่ต่างกัน ไม่มีความจำเป็นต้องไปถึงประเทศจีน แต่คำแนะนำของโรงพยาบาลได้เพิ่มความมั่นใจให้กับเขา ทำให้เขาตัดสินใจเดินทางไปรักษา วันที่ 21 ตุลาคม ปี 2018 คุณหลิวได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในวอร์ด 3 เตียง 38 ทางโรงพยาบาลได้ให้ ศ.นพ.หนิวลี่จื้อเป็นหัวหน้าทีมแพทย์ในการทำการวินิจฉัยโรคพร้อมวางแผนการรักษา หลังจากผ่านไป 4 วันคุณหลิวก็ได้เข้ารับการรักษาด้วยความเย็นพร้อมกับตรวจชิ้นเนื้อที่บริเวณตับ

　　การรักษาด้วยความเย็นนั้นเป็นการรักษาเทคนิคใหม่แบบบาดแผลเล็ก เป็นการผ่าตัดที่ใช้ยาชาและใช้เข็มทิ่มเฉพาะจุด ไม่จำเป็นตั้งใช้ยาชาทั่วร่างกาย เป็นการผ่าตัดภายใต้การเครื่องซีที ซึ่งจะไปยังบริเวณตับโดยตรง และใช้เข็มนำความเย็นแทงเข้าบริเวณก้อนเนื้อใช้ระยะเวลาประมาน 15 นาทีในการแช่แข็ง โดยทำทั้งสิ้น 2 รอบ จาก CT SCAN แสดงให้เห็นว่าก้อนเนื้อได้ถูกความเย็นทำลายไป ในระหว่างการผ่าตัดมีเลือดออกแค่ 2 มิลลิลิตรเท่านั้น  ตั้งแต่เปิดโรงพยาบาล ศจ.นพ. หนิวลี่จื้อได้ทำการรักษาผู้ป่วยด้วยความเย็นมาแล้วมากกว่า 10，000 ราย ดังนั้นสมาคมการรักษาด้วยความเย็นแห่งชาติจึงได้กำหนดให้โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าเป็นศูนย์ฝึกสอนการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย

　　ในระหว่างเข้ารับคีโมเฉพาะจุด คุณหลิวไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ และยังคงโทรศัพท์รายงานอาการของเขาให้กับครอบครัวเป็นประจำ

　　"เพื่อนชาวไต้หวันและมาเลเซียของผมไม่ทราบเลยว่าที่กว่างโจวนั้นมีโรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางด้วย ที่สำคัญคือเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานดีมาก ผมหวังว่าโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าจะเป็นที่รู้จักมากกว่านี้ ให้คนไข้โรคมะเร็งรู้จักที่นี้มากขึ้น จะได้มาทำการรักษาที่นี้" คุณหลิวกล่าว

　　ตอนกลับคุณหลิวกล่าวว่า “บุคลากรที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้านั้นดีกับผมมาก โดยเฉพาะการให้คีโมของโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากับที่มาเลเซียนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง การให้คีโมที่มาเลเซียนั้นเป็นการให้คีโมทั่วร่างกาย หลังจากเข้ารับการให้คีโมจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ผมร่วง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง ตอนทำก็มีอาการสติเลื่อนลอย แต่ที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าเป็นการให้คีโมเฉพาะจุด แทบจะไม่มีผลข้างเคียงเลย หลังจากเข้ารับการรักษาที่นี้ ผมกินข้าว อาบน้ำ ได้ปกติ สีหน้าก็ไม่เปลี่ยน หากดูจากภายนอกผมแทบไม่เหมือนคนป่วยเลยด้วยซ้ำ”

　　คุณหลิวเดินทางเข้ามารับการรักษาตัวคนเดียว เขาปฏิเสธที่จะให้ครอบครัวมาด้วย เขาบอกกับครอบครัวว่า “บุคลากรที่นี้ดูแลฉันดีมาก เหมือนกับญาติคนหนึ่งเลย ไม่จำเป็นต้องมาด้วยหรอก ฉันได้รู้จักเพื่อนเพิ่มตั้งหลายคน”  ก่อนออกจากโรงพยาบาลเขายังได้กินข้าว พร้อมพูดคุยกับบุคลากรในโรงพยาบาลอีกด้วย