คุณถานมีความทุกข์ทรมานจากโรคมะเร็งตับเมื่อ 14 ปีที่แล้ว เนื่องจากเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย โรงพยาบาลหลายๆแห่งในเมืองจีนได้ปฏิเสธการรักษาเขา เขาคิดว่าชีวิตจะสิ้นสุดลงแต่ก็ยังโชคดี ที่บังเอิญได้มาเจอโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า กวางโจวสำหรับการรักษาโรคมะเร็งของฟูด้ากลับกลายเป็นว่าได้รับการรักษาให้ดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์  เมื่อเร็ว ๆ นี้ผู้เขียนสัมภาษณ์และผู้บันทึกเส้นทางการฟื้นฟูมะเร็งเป็นเวลา 14 ปีของคุณถาน กับการต่อต้านโรคมะเร็งนี้

　　บ่ายวันหนึ่งในเดือนกรกฎาคม 2559 เป็นบ่ายที่อากาศค่อยข้างร้อนจัด ในห้องพักผู้ป่วยทั่วไปที่ชั้น 7 คุณถานที่เพิ่งตื่นขึ้นมาในตอนบ่ายกำลังเก็บข้าวของบนเตียงนี่เป็นครั้งที่สิบที่เขามาโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็คร่างกาย หลังจากเห็นฉันแล้วเขาก็มาถึงประตูอย่างรวดเร็วและทักทายว่า "สวัสดีครับ นั่งลงก่อนเถอะ" ฉันมองไปที่ชายวัยกลางคนผิวสีเข้มผิวแดงก่ำอยู่บนใบหน้าเขาบางทีเขาอาจถูกฝึกอบรมโดยอาชีพตำรวจเขาแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณของการเป็นคนธรรมดาที่เฉียบขาด ถ้าหัวหน้าวอร์ทผู้ป่วยไม่บอกฉันล่วงหน้าฉันไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาเป็นผู้ป่วยมะเร็งตับที่แพทย์มักพูดถึง

ประสบการณ์ 14 ปีที่ผ่านมา นั้นได้ผลุดขึ้นมาเป็นภาพซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหัวของเขา

　　ในปี 2002 เขาอาศัยอยู่ใน มลฑลอิงเต๋อเขามาที่กวางโจวเพียงเพราะความรู้สึกไม่สบายทางช่องท้องเมื่อสองสัปดาห์ก่อน หลังจากรับการตรวจ CT ในโรงพยาบาลท้องถิ่นเขาพบเนื้องอกก้อนใหญ่ในช่องท้อง ข่าวนี้ได้ทำลายชีวิตที่สงบสุขของเขา เขารีบไปตรวจที่โรงพยาบาลในกวางโจวอย่างรวดเร็วตับมีขนาดเนื้องอก 12 ซม. “ช่วงเวลานั้นเหมือนมืดแปดด้าน” เหมือนฝันร้าย สิ่งที่ทำให้เขายอมรับไม่ได้คือโรงพยาบาลคิดว่าอาการของเขาไม่สามารถอยู่ได้สามเดือน

　　แต่เพื่อครอบครัวแล้ว ผมต้องการที่จะมีชีวิตอยู่

　　ในเดือนกันยายนปี 2002 เขาเข้ามารับการตรวจที่โรงพยาบาลโรคมะเร็งฟูด้าเขามีเนื้องอกมีขนาดใหญ่มาก และถูกกดไปยังอวัยวะอื่น ๆ ช่องท้องด้านขวา ส่งผลให้การเดินไม่สะดวก และไม่อยากรับประทานอาหาร แต่ตราบใดที่ยังมีความหวังว่าจะไม่ยอมแพ้ คุณถานเต็มใจที่จะต่อสู้กับมัน เขาได้รับการรักษาครั้งแรกด้วย อุดตันหลอดเลือดตับ เสร็จสิ้นการรักษาด้วยการเทคนิคบาดแผลเล็ก เขามีไข้ต่ำๆเป็นเวลาสองเดือน

　　คุณถานนึกถึงความเจ็บปวดในตอนแรก： "ฉันต้องไปที่ตู้เย็นเวลา 8：30 น. ของทุกวันและวางถุงน้ำแข็งไว้บนหน้าผากของฉัน อีกทั้งยังต้องให้น้ำเกลือ ฉันจะเอาชนะมันให้ได้ ศาสตราจารย์ สวี่เค่อเฉิง กล่าวว่าเชื่อว่าไข้ต่ำไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีเสมอ  แต่เป็นไปได้ที่จะเป็นสัญญาณที่ดี จากข้อมูลการปรากฏของไข้ต่ำ พิสูจน์ให้เห็นว่าเนื้องอกนั้นได้ตายและเริ่มหดตัวลง "เมื่อฉันได้ยินคำพูดของคณบดี สวี่เค่อเฉิงฉันรู้สึกโล่งใจในทันใดนี่อาจเป็นข่าวดีเพียงอย่างเดียวตั้งแต่เวลานั้นมันหมายถึงสภาพดีขึ้นและทุกอย่างมีความหวัง"

　　สองเดือนต่อมา คุณถานได้ทำการตรวจ CT และพบว่าเนื้องอกนั้นหดตัวอย่างน่าอัศจรรย์จริงๆ！ ขนาดเล็ก！ ต่อจากนั้นมีการรักษาซ้ำอีกสามหลักสูตรและเนื้องอกลดลงจาก 12 ซม. เป็น 7 ซม. และน้ำในช่องท้องก็หายไป ใครจะคิดว่าคนที่ถูกตัดสินให้“ โทษประหารชีวิต” จากโรงพยาบาลใหญ่ ๆ รอดชีวิตมาได้ เขายิ้มให้กับชีวิตในอนาคต

ในปี  2007 ศาสตราจารย์ สวี่เค่อเฉิงถ่ายภาพหมู่ในสวนสาธารณะเมื่อเขาไปเยี่ยมบ้านเกิดของคุณถาน

　　ผมอยากให้เผชิญหน้ากับความจริงและรักษาอย่างทันถ่วงที

　　เมื่อเขามาที่โรงพยาบาลทุกปีเขาจะสนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งรายอื่นเผชิญกับโรคนี้อย่างแข็งขันเขาใช้ประสบการณ์จริงในการบอกผู้คนว่าจิตใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง “ ถ้ามีผู้ป่วยมะเร็งต่อหน้าคุณคุณอยากพูดอะไรกับเขามากที่สุด？” เขาตอบว่า：“ ฉันอยากจะพูดมากที่สุดฉันไม่สามารถยอมแพ้ได้ในนาทีสุดท้าย” เขาหวังว่าผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าความเชื่อสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้