ในอดีต เธอเคยถูกคนรักทอดทิ้งเพราะว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ สิ้นเนื้อประดาตัวไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว ในตอนนั้นเธอรู้สึกสิ้นหวัง ไร้คนช่วยเหลือ และหมดหวังกับชีวิต หลังจากอยู่ในช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดของชีวิต เธอโชคดีที่ได้พบกับ ศ.นพ. สวีเค่อเฉิง ผู้อำนวยการจากโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจว เธอจึงได้พบกับความหวังแห่งชีวิต ปัจจุบันเธออยู่กับเราที่สถานีถ่ายทอดสดเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ความโชคดีและความสุขของเธอ

สถานีถ่ายทอดสด

　　โชคดีในโชคร้าย

　　“เธอไม่สามารถใส่กางเกงได้ เนื่องจากก้อนเนื้อในท้องของเธอนั้นมีขนาดใหญ่มาก เธอจึงต้องใช้ผ้าขนหนูคลุมร่างกายเอาไว้”

　　“ตอนที่ได้เจอกับคุณซี่เหม่ยครั้งแรก ท้องของเธอนั้นใหญ่ซะยิ่งกว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ซะอีก”

　　“ตอนที่ผมพบเธอที่ห้อง ICU เธอหายใจโรยรินอยู่ที่ห้องนั้น”

　　“ในหน้าหนาว เธอใส่เพียงแค่เสื้อเชิ้ตบางๆเท่านั้น”

　　……

　　นี้เป็นคำพูดของคนส่วนมากที่ได้พบเจอกับคุณซี่เหม่ยในครั้งแรก

　　ในปี 2007 คุณซี่เหม่ยจากเมืองฮว้าโจวได้เข้ารับการตรวจและได้รับคำวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งรังไข่ที่โรงพยาบาลจ้านเจียง คุณหมอแจ้งว่ามีก้อนเนื้อขนาดใหญ่อยู่ในช่องท้องของเธอ เธอจะมีเวลาเหลือเพียงแค่ 1-2 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นเธอก็ได้แจ้งข่าวร้ายให้กับแฟนหนุ่มของเธอทราบ แต่ก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะบอกเลิกกับเธอในทันที “ฉันเคยโทษโชคชะตาค่ะ ว่าทำไมฉันถึงต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” เนื่องจากไม่มีเงินในการรักษา และไม่อยากรบกวนครอบครัว คุณซี่เหม่ยได้ตะเวนไปทั่วเมืองม่าวหมิงและไฮ่หนาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความทุกข์ทรมารที่สะสมมากขึ้นในทุกวัน ทำให้เธอถึงขั้นคิดสั้นอยากจบชีวิตของตนเอง ในปี 2009 ก้อนเนื้อในท้องของเธอนั้นใหญ่ขึ้นมากจนเธอแทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจกลับไปที่โรงพยาบาลจ้านเจียง “ในตอนนั้น ฉันคิดว่าที่นั่นเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในจ้านเจียงแล้ว บางทีที่นั้นอาจมีใครพอจะช่วยเหลือฉันได้”

　　ในวันที่ 19 ธันวาคม ปี 2019 ศ.นพ. สวีเค่อเฉิงได้เดินทางไปจัดกิจกรรมให้คำปรึกษาฟรีที่โรงพยาบาลจ้านเจียง ทำให้ท่านได้พบกับคุณซี่เหม่ยเป็นครั้งแรก หลังจากได้ทราบเรื่องราวของเธอ ศ.นพ. สวีเค่อเฉิงได้มอบเงิน 200 หยวนให้เธอเพื่อใช้ในการตรวจสภาพร่างกาย “ในตอนนั้น ฉันรู้สึกเหมือนตนเองได้เจอโชคดีเข้าแล้ว” คุณซี่เหม่ยกล่าว สิ่งที่ ศ.นพ. สวีเค่อเฉิงได้ทำกับเธอทำให้เธอรู้สึกดีและมีกำลังใจ หลังจากนั้นโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าก็ได้ส่งรถไปรับคุณซี่เหม่ยที่จ้านเจียง หลังจากนั้น ศ.นพ. สวีเค่อเฉิง ศ.นพ. หนิวลี่จื้อ ศ.นพ. มู่เฟิง และผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆก็ร่วมกันปรึกษาและเสนอแผนการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณซี่เหม่ย และในที่สุดก้อนเนื้อและของเหลวขนาด 55 กิโลกรัมก็ถูกกำจัดของจากช่องท้องของคุณซี่เหม่ย

　　“ด้วยความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญจากแผนกนรีเวช แผนกศัลยกรรมทั่วไป แผนกศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ แผนกการรักษาแบบบาดแผลเล็ก แผนกวิสัญญี แผนกหัวใจและหลอดเลือด และแผนกทางเดินหายใจ การผ่าตัดผ่านไปได้อย่างประสบความสำเร็จ” ศ.นพ. สวีเค่อเฉิงกล่าว เนื่องจากหน้าท้องของคุณซี่เหม่ยขยายใหญ่จากก้อนเนื้อและน้ำในช่องท้องมาเป็นเวลานาน เธอจึงจำเป็นต้องเป่าบอลลูนเพื่อเป็นการฝึกการหายใจของช่องท้องเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการขับเสมหะ ในขณะเดียวกันเธอจำเป็นต้องบำรุงร่างกายด้วยโปรตีนเป็นจำนวนมากในทุกๆวัน หลังจากได้รับการรักษาและดูแลอย่างดีจากโรงพยาบาล ในที่สุดคุณซี่เหม่ยก็สามารถกลับบ้านไปพบครอบครัวของเธอได้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนในปี 2010

　　ความรู้สึกขอบคุณและการตอบแทน

　　การรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจวนั้นได้มอบชีวิตใหม่ให้กับคุณซี่เหม่ย เธอกล่าวว่าถ้าหากไม่มีการสนับสนุนอย่างเต็มที่ของผู้เชี่ยวชาญ การบริจาคของโรงพยาบาล และการดูแลที่ดีเยี่ยมของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล เธอก็คงจะไม่สามารถเอาชนะโรคมะเร็งได้ โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจวนั้นไม่เพียงแต่ได้ช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ แต่ยังช่วยให้เธอได้ใช้ชีวิตที่ดีขึ้น หลังจากนั้นเธอได้ตัดสินใจเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือของโรงพยาบาลตลอดชีวิต เพื่อช่วยเหลือเหล่าเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาล และช่วยฟื้นฟูความรู้สึกและพูดคุยกับผู้ป่วยท่านอื่นๆ

ในระหว่างกิจกรรมเป็นอาสาสมัคร

　　ในปี 2016 คุณซี่เหม่ยได้เป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน เธอกล่าวว่า “ศ.นพ.สวีเค่อเฉิงเปรียบเสมือนพ่อของฉัน เขามอบชีวิตที่ 2 ให้กับฉัน ฉันอยากเดินตามรอยของ ศ.นพ.สวี่เค่อเฉิง และทำสิ่งดีๆเหมือนกับเขา เขาบอกกับฉันว่าพรรคคอมนิวนิสต์เป็นผู้ช่วยเหลือฉัน ฉันจึงอยากเป็นสมาชิกของที่นั่นเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนสังคม” เธอกล่าวว่าถือว่าเป็นเกียรติมากที่เธอได้เป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์เพราะทำให้เธอมีพลังทำสิ่งดีๆให้กับสังคม

เข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีน

　　ถึงแม้จะเป็นเรื่องค่อนข้างยากที่คนคนหนึ่งจะรู้สึกขอบคุณกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปตลอดชีวิต ปัจจุบันซี่เหม่ยได้เริ่มต้นชีวิตใหม่และมีครอบครัวของเธอเอง แต่เธอยังคงรักษาสัญญาที่ให้ไว้พร้อมเป็นอาสาสมัครของโรงพยาบาลมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี พร้อมทั้งยังสนับสนุนช่วยเหลือสังคมเหมือนกับที่เธอเคยได้รับมาก่อน “ตอนนี้เธอเป็นพี่ใหญ่แล้ว” ศ.นพ.สวีเค่อเฉิงกล่าวพร้อมกับหัวเราะ คนที่คุ้นเคยกับโรงพยาบาลของเราดีจะรู้จักกับคุณซี่เหม่ยเช่นกัน เพราะเธอมักจะพาคนอื่นๆมาช่วยเหลือผู้อื่นในการต่อสู้กับโรคมะเร็งอยู่เสมอ คุณซี่เหม่ยดูแลผู้ป่วยท่านอื่นๆเหมือนกับครอบครัวของเธอเสมอ เธอคอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้กับพวกเขาในการสร้างความมั่นใจและต่อสู้กับโรคมะเร็ง

　　สำหรับคุณซี่เหม่ยนั้น การเป็นอาสาสมัครนั้นเป็นหนทางในการแสดงความขอบคุณต่อผู้มีพระคุณและสนับสนุนต่อสังคม “ตอนนี้ฉันต้องการเพียงแค่ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง แบ่งปันประสบการณ์ของฉันให้พวกเขา และให้กำลังใจ สนับสนุนพวกเขาให้สู้ต่อไป” คุณซี่เหม่ยตั้งใจและพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น พร้อมทั้งสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยท่านอื่นๆเช่นกัน

　　ปรึกษาโรคมะเร็ง

　　หากคุณต้องการทราบว่าผู้ป่วยเหมาะสำหรับการรักษาแบบบาดแผลเล็กหรือไม่ (การรักษาด้วยความเย็น  การรักษาด้วยมีดนาโน  การรักษาเฉพาะจุดแบบอุดตันเส้นเลือด ฯลฯ) และค่าใช้จ่ายในการรักษา  กรุณากรอกข้อมูลผู้ป่วย เพื่อรับคำแนะนำจากทีมแพทย์มะเร็งผู้เชี่ยวชาญของเรา

รับคำแนะนำจากแพทย์