• ปรึกษาหมอมะเร็งฟรี
  • วิธีการรักษาแบบใหม่
  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • เรื่องราวของผู้ป่วย
หน้าหลัก / เรื่องราวของผู้ป่วย

ควรทำอย่างไรเมื่อผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่มีการแพร่กระจายไปยังตับมีอาการดื้อยาเคมีบำบัด

มะเร็งลำไส้

Author:NoneFrom:FUDA

  ควรทำอย่างไรเมื่อผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่มีการแพร่กระจายไปยังตับมีอาการดื้อยาเคมีบำบัด และยามุ่งเป้า

  มะเร็งลำไส้ใหญ่ทวารหนักเป็นหนึ่งในเนื้องอกมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในประเทศจีน โดยมีผู้ป่วยเป็นอันดับสามในบรรดาเนื้องอกมะเร็งอื่น ๆ ตามสถิติที่เปิดเผยโดยศูนย์มะเร็งแห่งชาติ รายงานว่าในปี 2558 มีผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ทวารหนักรายใหม่ประมาณ 388,000 ราย และมีผู้ป่วยประมาณ 187,000 รายเสียชีวิตจากโรคร้าย

  การแพร่กระจายส่วนปลายนั้นเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิต และตับเป็นจุดแพร่กระจายที่พบบ่อยที่สุด ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ทวารหนักประมาณ 15-25% มักได้รับการวินิจฉัยว่ามีการแพร่กระจายไปยังตับ ในเวลาเดียวกันในขณะที่ผู้ป่วย 50% อาจต้องทนทุกข์ทรมานจากการแพร่กระจายไปยังตับในระหว่างการลุกลามของมะเร็ง ที่แย่ไปกว่านั้นคือผู้ป่วยที่มีการแพร่กระจายไปยังตับมักมีการพยากรณ์โรคที่ไม่ดีมากนัก  ปัจจุบันกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยลำไส้ใหญ่ทวารหนักอยู่รอดคือการแก้ปัญหาที่เกิดจากการแพร่กระจายไปยังตับ                               

  

fuda11_284138.jpg

คุณฝานและญาติ


  ความสิ้นหวังเมื่อเกิดการดื้อยา

  ครั้งแรกที่เราเห็นคุณฝานที่โรงพยาบาลของเรา (โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจว หรือที่รู้จักกันในชื่อฟูด้า) เขากำลังดูทีวีกับญาติ เขาดูแข็งแรงมาก ซึ่งหากเราไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับอาการของเขาล่วงหน้า เราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาเป็นผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่มีการแพร่กระจายไปยังตับที่เคยเข้ารับการผ่าตัดแล้ว เมื่อสองปีก่อนคุณฝานพบว่าค่า CEA ของเขานั้นสูงกว่าปกติในระหว่างที่ทำการตรวจร่างกาย ตามคำแนะนำของแพทย์ระบบทางเดินอาหารในพื้นที่คุณฝานจึงเข้ารับการส่องกล้อง “ผลการตรวจพบว่ามีติ่งเนื้อขนาดใหญ่ในลำไส้ใหญ่ ผมคิดแล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ” คุณฝานกล่าว

  

WeChat Image_20210414183154.jpg


  ต่อมาคุณฝานได้เข้ารับการผ่าตัดบริเวณลำไส้ใหญ่ จากผลรายงานทางพยาธิวิทยาพบว่าคือมะเร็งต่อมอะดีโนคาร์ซิโนมา หลังจากการผ่าตัดเขาได้เริ่มทำเคมีบำบัด และในเดือนมิถุนายน ปี 2019 เขาเข้ารับการตรวจ CT scan ซึ่งทำให้พบว่ามีการแพร่กระจายไปยังตับหลายจุด ด้วยความช่วยเหลือของยามุ่งเป้าและเคมีบำบัดเนื้องอกของเขาจึงอยู่ภายใต้การควบคุม “ตอนนั้นผมรู้สึกดีขึ้น แต่ผมต้องหยุดเข้ารับการรักษาเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19”

  คุณฝานบอกเราว่า เขามีอาการปวดไหล่และไม่สามารถยกแขนได้ในเดือนเมษายน ปี 2020 ซึ่งเขาได้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลในพื้นที่ทันที "ผมคิดว่ามันเป็นแค่ไหล่อักเสบ และไม่คาดคิดเลยว่าค่า CEA ของเขาจะสูงถึงเกือบ 700 ng/mL" คุณฝานกล่าว คุณฝานตกใจกับผลอย่างมาก เขาจึงเข้ารับการรักษาโดยทันทีถึงแม้ว่าการรักษาดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าได้ผลน้อย “ในเวลานั้นจุดที่แพร่กระจายไปตับที่ใหญ่ที่สุดคือ 8.5×6.3 ซม. นอกจากนี้ผมยังมีอาการดื้อยา ดังนั้นการให้เคมีบำบัดหรือยามุ่งเป้าจึงไม่มีประโยชน์แล้ว"

  คุณฝานมักพูดเสมอว่าถ้ามีทางรอดเหลืออยู่ สิ่งที่ต้องทำก็คือไปหามัน แต่ถ้าไม่มีแล้วเขาก็พร้อมที่จะยอมแพ้ เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวของคุณเผิง ซี่เหม่ยที่ได้รับการช่วยเหลือโดยศาสตราจารย์สวีเค่อเฉิงทางช่อง CCTV Health Channel เขาจึงตัดสินใจไปพบศาสตราจารย์สวีเค่อเฉิง "นี่อาจเป็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางการรักษาของผม และผมอยากจะขอความเห็นจากศ.สวีเค่อเฉิงว่าฉัผมยังมีโอกาสรอดไหม" คุณฝานกล่าว

  การรักษาที่มีประสิทธิภาพและการรับประทานอาหารบำรุงร่างกาย

  ด้วยความช่วยเหลือของญาติ คุณฝานได้ไปพบกับศาสตราจารย์สวีเค่อเฉิงที่เมืองกวางโจว "ศาสตราจารย์สวีเค่อเฉิงบอกกับผมว่ามีวิธีที่จะช่วยผมได้ ทำให้ผมมีความมั่นใจขึ้นอย่างมาก" หลังจากพูดคุยกับครอบครัว เขาก็ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของเราในเดือนสิงหาคม ปี 2020

  คุณฝานได้เข้ารับการตรวจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการแพร่กระจายไปยังตับนั้นใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย และค่า CEA ก็สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อ้างอิงจากอาการของคุณฝานผู้เชี่ยวชาญของเราให้ยาเคมีบำบัดและยามุ่งเป้ากับเขา หลังจากเข้ารับการรักษาหลายรอบ ระดับค่า CEA ของเขาก็อยู่ภายใต้การควบคุม และจากการแสดงผลโดยอัลตราซาวนด์และ CT scan พบว่าการแพร่กระจายไปยังตับก็มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม “ถือเป็นข่าวดีกับผมอย่างมาก นี้หมายความว่าการรักษาได้ผลและผมยังมีโอกาสรอดชีวิต" คุณฝานบอกเขาพวกเราว่าสำหรับเนื้องอกที่แพร่กระจายไปยังตับ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 เขาได้เข้ารับการรักษาด้วยความเย็นโดย ดร.โจวเหลียงซึ่งการรักษาผ่านไปอย่างราบรื่น

  “คนไข้คนอื่นๆ ในกรณีแบบผมนั้นส่วนมากมักจะเหลือเวลาอีกแค่ 6 เดือน แต่นี้ผมก็ผ่านไป 6 เดือนแล้ว!” คุณฝานนั้นพอใจกับผลการรักษาเป็นอย่างมาก เขากล่าวว่าเขานั้นยอมแพ้ต่อการรักษาไปแล้ว แต่ ศ.สวีเค่อเฉิงก็ได้มอบความหวังให้กับเขา

  หลังจากที่การรักษานั้นได้ผลดีอย่างมากทำให้ใบหน้าของคุณฝานนั้นเปลี่ยนไป จากสีเทาเป็นสีแดงก่ำ อาหารบำรุงที่ฟูด้าจัดให้คุณฝานก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน "ตั้งแต่ผมได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ครอบครัวของผก็เฝ้าติดตามการกินของผมอย่างเข้มงวด ผมเลือกรับประทานอาหารที่ต้องการไม่ได้ แต่เมื่ออยู่ที่นี้ผมสามารถกินอะไรก็ได้ตราบเท่าที่มีคุณค่าทางโภชนาการ"

  

WeChat Image_20210414183139.jpg

ศาสตราจารย์สวีเค่อเฉิงไปเยี่ยมคุณฝานในการเดินตรวจคนไข้


  ดังเช่นกับที่ศาสตราจารย์สวีเค่อเฉิงเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการนั้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย การขาดสารอาหารจะทำให้คุณภาพชีวิตต่ำลง และทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาลดลง เพิ่มโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อน และทำให้ชีวิตของผู้ป่วยสั้นลง

  โภชนาการไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับอาหารเสริม เราแนะนำให้ทานโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสม อาหารที่มีวิตามินสูงและอาหารหยาบเช่นผักสดและผลไม้เป็นต้น หากเราสามารถ “กินอาหารดีเพื่อเพิ่มน้ำหนักซึ่งทำให้สุขภาพดีและมีพลังงาน” เราจะควบคุมมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่ามะเร็งจะไม่สามารถกำจัดออกไปได้ แต่เราก็“ อยู่ร่วมกับมัน” ได้ด้วยความเจ็บปวดที่น้อยลง

  "ห้าความรู้สึก ห้าสิ่งหายาก ห้าลักษณะ"

  คุณฝานได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของเราหลายครั้ง และทุกครั้งเขาก็มักจะมาพร้อมกับญาติของเขาเสมอ "ลูกๆของผมทำงานยุ่ง และไม่สามารถมากับฉันได้ "ญาติที่เปรียบดังพี่ชาย" ของผมคนนี้เขาเกษียณแล้ว ดังนั้นเขาจึงมากับผมทุกครั้งเมื่อผมโทรหาเขา" ต้องขอบคุณ “พี่ชาย” ของเขา เขาจึงไม่รู้สึกเหงาระหว่างเข้ารับการรักษา

  “เขามักจะพูดถึงปัญหาการดื่มของผมอยู่เสมอ” เนื่องจากอาการเจ็บปวด คุณฝานจึงควบคุมตัวเองไม่ให้ดื่มมากเกินไป แต่ “พี่ชาย” ของเขายังคงกังวลเกี่ยวกับการดื่มของคุณฝาน เขาจึงเชิญแพทย์ผู้รับผิดชอบของคุณฝานให้เตือนคุณฝานให้งดการดื่มแอลกอฮอล์ คุณฝานกล่าวว่าคนอื่นๆ มักคิดว่าพวกเขาเป็นพี่น้องแท้ๆที่โตมาด้วยกัน แต่พวกเขานั้นผ่านเรื่องร้ายๆอย่างเช่นการต่อสู้กับโรคร้ายมาด้วยกันตลอด

  ก่อนออกจากโรงพยาบาล พี่ชายของคุณฝานได้เขียนสิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับฟูด้าในระหว่างที่เขาอยู่ที่นี้ว่า  "ห้าความรู้สึก ห้าสิ่งหายาก ห้าลักษณะ"

  เขากล่าวว่าอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง และความกดดันในทุกๆด้านจะทำให้ผู้ป่วย หรือสมาชิกในครอบครัวของเขา/เธอนั้นเกิดความร้อนรน หรือกระสับกระส่าย และนั่นเป็นสาเหตุที่ผู้ป่วยควรเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ที่ฟูด้าเขาได้เห็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง และการดูแลที่ดีเมื่อเราได้รับความไว้วางใจ การสื่อสาร และความร่วมมือระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยจะสามารถช่วยในอาการของผู้ป่วยได้

  

WeChat Image_20210414183200.jpg

สำเนาต้นฉบับของจดหมาย


วิธีการรักษา
  • การรักษาให้คีโมเฉพาะจุดผ่านทางเส้นเลือด...

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง
  • ศ.นพ.สวีเค่อเฉิง...

การรักษาที่กำลังนิย
  • การรักษาด้วยการให้ยาผ่านทางเส้นเลือด

  • การรักษาด้วยความเย็น (Cryosurgical Ablation, CSA)

  • การรักษาด้วยมีดนาโน (IRE)

  • การรักษาด้วยคลื่นไมโครเวฟ

  • การรักษาด้วยแสงจำเพาะ (Photodynamic Therapy, PDT)

  • การรักษาโดยสร้างภูมิคุ้มกันแบบองค์รวม

  • การรักษาด้วยคีโมร้อนบริเวณช่องท้อง

  • โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
  • โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
  • ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
  • ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ