ช่วงหน้าหนาวของปี 2018 คุณเฉินผู้ป่วยจากประเทศมาเลเซียกำลังคุยเล่นกับแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนาน ทุกคนเห็นเขามีร่างกายแข็งแรงจึงชื่นชมที่เขาสามารถรักษาบำรุงร่างกายได้อย่างดี พอพูดถึงเรื่องตลกๆ เขาก็จะหัวเราร่า หากมองจากภายนอกจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขานั้นป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 4 แล้ว

　　ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ระยะที่ 4 ซึ่งไม่มีอาการผิดปกติใดๆ

　　เดือนมีนาคมปี 2018 คุณเฉินพบว่าตนเองนั้นมีขับถ่ายบ่อยขึ้น และก็มีเลือดปนอยู่ในอุจจาระด้วย และเมื่อเวลาผ่านไปเลือดก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลในท้องถิ่นและพบว่าตนเองเป็นมะเร็งลำไส้ตรง หลังจากทราบผลตรวจ คุณเฉินนึกขึ้นได้ว่าคุณพ่อของเขาก็เสียชีวิตจากโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร ส่วนคุณแม่นั้นเสียจากมะเร็งลำไส้ เขาจึงตัดสินใจเข้ารับตรวจให้ละเอียดมากขึ้นด้วย PET/CT SCAN ซึ่งผลออกมาพบว่าเขาเป็นมะเร็งลำไส้ชนิด Moderately differentiated adenocarcareinoma ระยะที่ 4 แพร่กระจายไปที่ตับ เมื่อทราบข่าวทางครอบครัวของเขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าคุณเฉินผู้ซึ่งร่างกายแข็งแรงมาโดยตลอดนั้นป่วยเป็นโรคนี้ได้ ทุกคนต่างเสียใจจนร้องไห้ต่อหน้าเขา แต่ตัวคุณเฉินนับถือศาสนาพุทธและเป็นคนมองโลกในแง่ดี ความคิดอันดับแรกของเขาในขณะนั้นคืออยากให้ตัวเองจากไปอย่าง “เรียบร้อยดี” ไม่อยากเหมือนคุณพ่อคุณแม่ของเขาซึ่งจากไปด้วยความทรมานจากผลข้างเคียงของคีโมทั่วร่างกาย “จนถึงปัจจุบันนี้ ผมยังไม่ลืมเลยว่าคุณพ่อคุณแม่ของผมนั้นทรมานจากคีโมทั่วร่างกายมากขนาดไหน ผมจึงไม่สามารถรับอาการข้างเคียงของคีโมได้ แม้ว่าลูกๆได้ทำการติดต่อคุณหมอสิงคโปร์ให้ผมไปเข้ารับการรักษา และผมเองก็ได้คุยกับคุณหมอที่สิงคโปร์แล้ว แต่หลังจากทราบว่าวิธีการรักษาที่สิงคโปร์นั้นเหมือนกับวิธีที่คุณพ่อคุณแม่ของผมเคยทำ ผมจึงลังเลว่าจะไปรักษาดีหรือไม่” ในขณะที่เขากำลังกลุ้มใจอยู่นั้น ลูกสาวที่ทำงานในสำนักพิมพ์ก็ได้ส่งข่าวดีมาให้

　　ฟังการบรรยายจากแพทย์ฟูด้าและเดินทางไปรักษา

　　ลูกสาวคุณเฉินบอกเขาว่าเร็วๆนี้มีแพทย์จากโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจวประเทศจีนมาบรรยายที่ประเทศมาเลเซีย ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นงานบรรยายเกี่ยวกับการรักษาแพทย์แผนจีนโบราณ อีกทั้งเมืองกว่างโจวนั้นไกลมากเกินไปสำหรับเขา เขาจึงปฎิเสธเข้าร่วมรับฟังการบรรยาย  แต่ลูกสาวของเขานั้นได้ไปเข้ารับฟังและพบว่าโรงพยาบาลฟูด้ารักษาเฉพาะมะเร็งมีเทคนิคการรักษาพิเศษที่ดังไปทั่วโลก คุณเฉินจึงไปฟังการบรรยายโดยมีครอบครัวไปฟังเป็นเพื่อนด้วย

　　หลังจากได้ฟังการบรรยายคุณเฉินถึงทราบว่าโรงพยาบาลฟูด้านั้ยรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยแพทย์แผนปัจจุบันแบบเฉพาะจุด ซึ่งเทียบกับการรักษาคีโมทั่วไปที่โรงพยาบาลมาเลเซียแล้ว การรักษาเฉพาะจุดนั้นมีผลข้างเคียงน้อย เจ็บปวดน้อย และมีความแม่นยำในการรักษา เมื่อหลายปีมานี้โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าได้รักษาผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ที่แพร่กระจายไปยังตับด้วยคีโมเฉพาะจุดแบบ Hepasphere มาลายร้อยกว่าราย อนุภาคการส่งยาเข้าถึงเส้นเลือดและสามารถปรับตัวตามรูปร่างของเส้นเลือดเข้าลึกจนถึงปลายเส้นเลือดของเนื้องอก และทำการอุดดันเส้นเลือดฝอยของเนื้องอกโดยทำการตัดออซิเจน และจะทำให้เนื้องอกขาดสารอาหารและตายลง และทำการให้ยาคีโมที่มีความแข้มข้นสูงแบบเฉพาะจุด  ดังนั้นจะสามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้เต็มที่ ยาคีโมส่วนใหญ่อยู่ในเฉพาะจุด แพร่กระจายไปยังบริเวณอื่นเพียงเล็กน้อย จึงไม่มีผลข้างเคียงต่อทั่วร่างกาย มีผลกระทบต่อผู้ป่วยน้อยมาก ซึ่งเป็นผลประโยชน์กับผู้ป่วยมะเร็งอย่างมาก และนี่คือการรักษาที่คุณเฉินตามหามาตลอด

　　เสียงร้องเพลงผ่อนความเครียด เขาให้ความร่วมมือกับแพทย์อย่างดี

　　เมื่อคุณเฉินเริ่มทำการรักษา เขาตื่นเต้นมาก แม้กระทั่งเจาะเลือด เจาะเข็มก็ยังรู้สึกกลัวมาก นางพยาบาลเห็นเขาเครียดจึงปลอบใจให้เขาคลายเครียด และถามเขาว่านอกเวลางานนั้นเขาคลายเครียดยังไง “ถ้าหากว่าอย่างนั้น พวกคุณร้องเพลงให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ” นางพยาบาลที่ช่างรู้ใจคนร้องเพลงให้ขึ้นมาทันที คุณเฉินเริ่มคลายเครียดหลังจากได้ยินเสียงร้องเพลง เขาให้ความร่วมมือกับแพทย์อย่างดี และเริ่มเข้ารับการรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุดครั้งแรก

　　การรักษายากมาก แต่ทุกครั้งหลังการรักษาค่ามะเร็งก็ลดลง

　　ก่อนการรักษา คุณเฉินมีก้อนมะเร็งที่มีลักษณะเหมือนดอกกระกล่ำที่ลำไส้ห่างจากรูทวารขนาด 10 ซม. โดยมีเลือดซึมออกมาจากด้านนอก อีกทั้งมีเชื้อมะเร็งแพร่กระจายไปที่ตับ ซึ่งนับว่าเป็นมะเร็งระยะขั้นที่ 4 ที่รักษายาก

　　แพทย์ของทีมการรักษาคีโมเฉพาะจุดอธิบายว่า ถ้ารักษาตามทั่วไปแล้ว คุณเฉินจะต้องผ่าตัดก้อนมะเร็งที่ลำไส้ และทำการต่อลำไส้ไว้หน้าท้อง แต่การรักษาแบบนี้ทำลายร่างกายมากกว่าคีโมเฉพาะจุด อีกทั้งยังทำให้ผู้ป่วยไม่สะดวกในการใช้ชีวิต หลังจากทราบอาการของคุณเฉิน ผู้เชี่ยวชาญของการรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุดได้ปรึกษากัน และตัดสินใจใช้แผนการรักษาของคีโมเฉพาะจุด

　　จากเดือนมีนาคมจนถึงเดือนธันวาคมของปี 2018 คุณเฉินได้รับการรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุดที่โรงพยาบาลฟูด้ามาทั้งสิ้น 8 ครั้ง หลังเข้ารับการรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุด 7 ครั้ง คุณเฉินได้ทำการรักษาด้วยแสงจำเพาะที่มะเร็งลำไส้ด้วย การรักษาผ่านไปอย่างราบรื่น หลังจากนั้นคุณเฉินจึงได้เข้ารับคีโมเฉาะจุดเพื่อควบคุมอาการต่อไป หลังรับการรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุด และแสงจำเพาะอาการคุณเฉินนั้นอยู่ในภาวะคงที่ “หลังคีโมเฉพาะจุดครั้งแรกขับถ่ายดีขึ้น  หลังการรักษาครั้งที่สองไม่มีเลือดปนแล้ว” สิ่งที่ทำให้คุณเฉินและภรรยาดีใจมากคือค่ามะเร็งก่อนรักษาอยู่ที่ 2009 หลังเข้ารับคีโมเฉพาะจุดจำนวน 8 ครั้งค่ามะเร็งลดลงเป็น180 มะเร็งที่ลำไส้เล็กมีขนาดเล็กลงอย่างชัดเจน หลังจบการรักษาด้วยคีโมเฉพาะจุดครั้งที่ 8 ในต้นเดือนธันวาคม คุณเฉินได้ออกจากโรงพยาบาลด้วยความดีใจ

　　การรักษาด้วยแสงจำเพราะพร้อมคีโมเฉพาะจุด ควบคุมมะเร็งอย่างแม่นยำ

　　การรักษาด้วยแสงจำเพาะเป็นวิธีหนึ่งของการรักษามะเร็งทั่วไป มีจุดเด่นคือสารเพศน้อย แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว ทำการรักษาเนื้อเยื่อปกติได้มากที่สุด ขณะเดียวกันยังไม่ต่อด้านภูมิคุ้มกัน และไม่ยับยั้งไขกระดูก ได้ผลภายใน2-3 ครั้งอีกทั้งการรักษาด้วยแสงจำเพาะไม่มีผลกระทบต่อการรักษาอื่นๆ  ใช้รักษาพร้อมกับการผ่าตัดและฉายแสงสามารถควบคุมมะเร็งได้ผลดีมีความแม่นยำในการต่อต้านมะเร็ง คุณหมอซือแพทย์เจ้าของไข้ของคุณเฉินกล่าวว่า การรักษาของคุณเฉินนั้นได้ผลดีตามความคาดหวังไว้ เขามั่นใจในตัวแพทย์จึงให้ความร่วมมือดีมาก ตอนนี้มะเร็งสามารถควบคุมได้อย่างดี พวกเราก็ดีใจมาก ความเชื่อมั่นและการยอมรับจากผู้ป่วยเป็นต้นกำเนิดพลังการก้าวหน้าของเรา

　　ทุกครั้งหลังทำการรักษา เพื่อนชาวมาเลเซียเห็นคุณเฉินต่างชื่นชมว่า “คุณหน้าตาสดใส ผมก็ไม่ร่วง ไม่เหมือนคนป่วยโรคมะเร็งเลย ดูไม่ต่างกับคนปกติเลย” คุณเฉินตอบว่า “ต้องขอบคุณคุณหมอที่ฟูด้าที่ทำการรักษาและดูแลอย่างดี ผมอยากให้ผู้ป่วยคนอื่นๆทราบว่าการรักษามะเร็งที่ฟูด้านั้นไม่ได้ทรมานขนาดนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนที่นี่ดูแลเอาใจใส่ดีมาก พักรักษาที่นี่ไม่ต้องกังวลอะไรเลย สบายใจมาก”

　　เขายังบอกว่า ทุกครั้งที่ออกจากโรงพยาบาล ล่ามของศูนย์ให้บริการจะหาเวลาเป็นไกด์พาเที่ยงเมืองกว่างโจว ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกอุ่นใจมาก อีกทั้งยังสามารถชมวิวทานอาหารอร่อยของเมืองกว่างโจวอีกด้วย