• ปรึกษาหมอมะเร็งฟรี
  • วิธีการรักษาแบบใหม่
  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • เรื่องราวของผู้ป่วย
หน้าหลัก / เรื่องราวของผู้ป่วย

แพทย์กว่างโจวพยายามช่วยชีวิต นักร้องมาเลเซียที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

มะเร็งปอด

Author:NoneFrom:FUDA

w1.jpg

  หนังสือพิมพ์หยางเฉิงฉบับเย็นหน้า A13พาดหัวข่าวว่า แพทย์กว่างโจวพยายามช่วยชีวิต นักร้องมาเลเซียที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

  

w2.jpg

  หลินหยิ่งจื่อเชิญแพทย์พยาบาลฟูด้าไปเยี่ยมที่บ้านของเธอในมาเลเซีย สองพี่น้องนำคณะประสานเสียงแดนดิไลออนมาร่วมแสดงความขอบคุณแขกแดนไกลจากจีน

  สองพี่น้องเดินทาไปรักษาที่กว่างโจว

  หลินหยิ่งจื่อปีนี้อายุ39ปี เป็นคนมาเลเซียเชื้อสายจีนรุ่นที่4เธอกับพี่สาวหลินหยิ่งซีมีใจรักดนตรีและเต้นรำตั้งแต่เด็ก พี่น้องสองคนตั้งคณะประสานเสียงแดนดิไลออน 16ปีที่ผ่านมาพี่น้องทั้งสองคนช่วยกันร้องรำทำเพลงดึงดูดนักเรียนมาเข้าร่วมคณะจำนวนมาก เคยรับเชิญไปแสดงที่ออสเตรเลียและยุโรปหลายร้อยครั้ง

  คาดไม่ถึงว่าครึ่งปีก่อน หลินหยิ่งจื่อล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย หลังเวทีการแสดงทุกก้าวเดินมีอาการหายใจหอบเหนื่อยคล้ายสุนัข โรงพยาบาลในท้องถิ่นแจ้งว่าเป็นมะเร็งระยะที่4ไม่มียารักษาขอให้เธอทำใจ จากการแนะนำของเพื่อน สองพี่น้องถือเป็นความหวังสุดท้ายจึงเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลฟูด้ากว่างโจว เมื่อวันที่14สิงหาคม

  ก่อนมารักษาที่จีน หลินหยิ่งจื่อเคยตรวจยีนส์มาก่อนแล้วพบว่า ยีนส์ทั่วไปเป็นผลลบnegativeแสดงว่าไม่สามารถรักษาด้วยยาทาร์เกท ได้แต่ให้ยาคีโมยืดชีวิต “แต่หลินหยิ่งจื่อเป็นผู้หญิงไม่เคยสูบบุหรี่ อาจเป็นไปได้ว่ามียีนส์กลายพันธิ์”ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลฟูด้าสวิเค่อเฉิงกล่าวว่า หลังจากวิเคาะห์แล้วตัดสินใจตรวจยีนส์ให้หลินหยิ่งจื่ออีกครั้ง แต่ทุกคนในบ้านหลินหยิ่งจื่อกลับไม่เห็นด้วย คิดว่าการตรวจยีนส์อีกเป็นการฟุ่มเฟือยเพราะเคยตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ของมาเลเซียมาแล้ว การตรวจต้องการค่าใช้จ่ายสูง จะเอาไปใช้เพื่อการตรวจทำไม เอามาใช้ในการรักษาดีกว่า ส่วนหลินหยิ่งจื่อคิดว่าไม่อยากเสียเงินซื้อความผิดหวังอีกครั้ง

  หลังโรงพยาบาลได้ตรวจยีนส์ให้หลินหยิ่งจื่อพบว่ามียีนส์ที่พบน้อยตัวหนึ่งเป็นผลบวกPositive ผลตรวจรายงานว่า ยีนส์ALKของเธอเป็นผลลบnegative (ปกติมีเพียง3%-5%เท่านั้น)แต่ยีนส์ROSI ให้ผลบวก Positiveซึ่งมีเพียง1% เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งปอดถือเป็นรายแรกของโรงพยาบาล แพทย์เจ้าของไข้จางยีสื่อกล่าวว่า มีโอกาสรักษาได้ผลดี หลินหยิ่งจื่อสามารถรักษาด้วยทาร์เกทเพื่อลดความรุนแรงโรคและอันตรายได้ คาดคิดไม่ถึงว่าความฟุ่มเฟือยเช่นนี้ ทำให้หลินหยิ่งจื่อพบความหวังครั้งใหม่

  

ny14_414418.jpg

หลินหยิ่งจื่อกับผู้อำนวยการสวิเค่อเฉิง

  ฉันขอบคุณผู้อำนวยการสวิมาก ที่ถือเอาผู้ป่วยเป็นสำคัญ หลินหยิ่งจื่อนึกถึงเวลาที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า เพราะอาการหนักหนาสาหัส แม้คณะแพทย์ได้ปรึกษาเป็นเวลานานยังไม่สามารถหาข้อสรุปการรักษาให้ได้ เธอท้อจอย่างมากถามผู้อำนวยการตรงๆว่า ฉันจะอยู่ได้อีกนานเท่าไร ผู้อำนวยการสวิเค่อเฉิงหัวเราะและตบมื่อฉันเบาๆว่า ไม่ต้องคิดมาก  ทำใจสบาย ฉันต้องขอบคุณท่านที่ปลอบใจฉัน คิดไม่ถึงว่าตัวเขาก็เป็นมะเร็งเช่นกัน ไม่เหมือนหมออื่นๆที่พูดหยาบ หมอที่นี่ให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างมาก หลินหยิ่งจื่อพ้อว่า หมอที่ประเทศเราบางคนพูดกับฉันตรงๆเลยว่า คุณต้องรู้ว่าคุณเป็นระยะขั้นที่4แลัว รักษาไม่ได้ ไม่มียารักษาแล้ว คุณได้แต่รอเวลาอย่างเดียว ถึงแม้ฉันรู้ว่ามันเป็นความจริง แต่แพทย์ที่นี่ให้กำลังใจบอกว่าอย่าท้อแท้ทำให้รู้สึกมีความหวังขึ้นมา

  ยืนหยัด รับผิดชอบ ดูแลใกล้ชิด อบอุ่น ประสบการณ์เดินทางไปรักษาเมืองจีนครั้งนี้  ทำให้หลินหยิ่งจื่อเข้าใจแพทย์พยาบาลเมืองจีนอย่างลึกซึ้ง

  ช่วงเวลารักษาที่ฟูด้า หลินหยิ่งจื่อเล่นเปียโนร้องเพลงที่ชั้น3ทุกวัน เสียงเปียโนทำให้บรรยากาศอันเงียบเหงาในโรงพยาบาลคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นมา ผู้ป่วยชาวต่างชาติค่อยๆเพิ่มจำนวนมาร่วมบรรเทิงด้วย เมื่ออาการดีขึ้น หลินหยิ่งจื่อแม้จะเคยใส่ท่อผ่านคอหอย ยังมาช่วยร้องเพลงตามเสียเปียโนของพี่สาวให้ทุกคนฟัง

w4.jpg


  ช่วงเวลารักษาตัวในโรงพยายาล หลินหยิ่งจื่อกับพี่สาวหลินหยิ่งซีเล่นเปียโนและร้องเพลงที่ชั้น3เกือบทุกเย็นคือเสียงเปียโนเสียงร้องเพลงช่วยปลอบประโลมใจผู้ป่วยและญาติได้ดี

  สองพี่น้องจัดงานคอนเสิร์ตการกุศลไม่ยอมท้อถอยที่มาเลเซีย จัดให้แพทย์จีนและให้ตัวเอง

  ที่จริงไม่มีใครสามารถกำหนดดวงชะตาของตัวเองได้ แต่สามารถเลือกวิธีการใช้ชีวิตของตนได้ คืนวันที่3ธันวาคม สองพี่น้องเชื้อสายจีนหลินหยิ่งจื่อและหลินหยิ่งซีจัดงานคอนเสิร์ต”ไม่ยอมท้อถอย”ที่มีผู้เข้าชม500กว่าคนในที่ห้องโถงแห่งหนึ่งที่เมืองซินซานประเทศมาเลเซีย ถือเป็นของขวัญที่หลินหยิ่งจื่อมอบให้กับตัวเองและมอบให้แพทย์จีน หลินหยิ่งจื่อผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายโน้มตัวโค้งคำนับแพทย์พยาบาลแดนไกลจากกว่างโจว กล่าวขอบคุณแพทย์ที่ช่วยให้รอดในยามเป็นยามตายมาได้

  

w5.jpg


w6.jpg

ภาพถ่ายในงานคอนเสร์ต

  สิ่งอัศจรรย์เกิดในจีนได้เสมอ โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทัยสมัย หลินหยิ่งซีกล่าวว่าหลังจากกลับไปตรวจติดตามผลการรักษาที่มาเลเซีย แพทย์ที่มาเลเซียต่างสนใจถามถึงเทคโนโลยีใหม่ในการรักษามะเร็งของโรงพยาบาลฟูด้า

  ตอนนี้น้องสาวยังร้องเพลงได้ ต่อไปเราจะจัดงานเคอนเสิร์ตนำเงินที่ได้มาให้มูลนิธิรักษาผู้ป่วยมะเร็งหลินหยิ่งจื่อกล่าวว่า ต่อไปงานคอนเสิร์ตแต่ละครั้งจะให้ความหมายต่างไป เพราะว่านี่คือการต่อสู้เพื่อชีวิตรอด

  ฉันจะกลับมาเยียมเพื่อนเก่าที่กว่างโจวอีก ช่วงอยู่โรงพยาบาล แพทย์และเพื่อนผู้ป่วยจำนวนมากมาให้กำลังใจฉันตลอด เราเป็นเพื่อนร่วมชะตากรรม


วิธีการรักษา
  • การรักษาให้คีโมเฉพาะจุดผ่านทางเส้นเลือด...

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง
  • ศ.นพ.สวีเค่อเฉิง...

การรักษาที่กำลังนิย
  • การรักษาด้วยการให้ยาผ่านทางเส้นเลือด

  • การรักษาด้วยความเย็น (Cryosurgical Ablation, CSA)

  • การรักษาด้วยมีดนาโน (IRE)

  • การรักษาด้วยคลื่นไมโครเวฟ

  • การรักษาด้วยแสงจำเพาะ (Photodynamic Therapy, PDT)

  • การรักษาโดยสร้างภูมิคุ้มกันแบบองค์รวม

  • การรักษาด้วยเครื่องอบความร้อนด้วยคลื่นไมโครเวฟ

  • โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
  • โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
  • ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
  • ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ