เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปี 2019 คุณเฉินเจ๋อ ผู้ป่วยวัย 63 ปีได้เดินทางกลับมายังโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า นี้นับเป็นปีที่ 8 ของการรักษา และเป็นครั้งที่ 8 ที่เขาเดินทางมายังโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า ทุกคนที่โรงพยาบาลล้วนคุ้นหน้าเขาเป็นอย่างดี ในขณะที่เดินอยู่ในโรงพยาบาล คุณเฉินเจ๋อได้พบกับ ศ.นพ.หนิวลี่จื้อ คุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้เขามาก่อน คุณเฉินเจ๋อรีบเดินเข้าไปจับมือทักทายด้วยความตื่นเต้น และพูดว่า “ผมชื่อเฉินเจ๋อ คุณหมอหนิวครับ ขอบคุณคุณหมอมากๆ ผมยืดอายุตัวเองมาได้กว่า 8 ปีแล้วหลังจากเจอโรค หากไม่มีคุณหมอผมต้องไม่อยู่แล้วแน่ๆ ขอบคุณคุณหมอที่ทำให้ผมได้มีชีวิตต่อไปนะครับ” คุณหมอหนิวเมื่อได้ยินก็ดีใจมากๆ ไม่คิดว่าจะได้เจอกับคนไข้ที่ตนเคยผ่าตัดเมื่อ 7 ปี ที่แล้ว แต่เนื่องจากมีคนไข้ที่แผนกฉุกเฉิน เขาจึงต้องบอกลากับคุณเจ๋อไปก่อน

　　ตรวจเจอเซลล์มะเร็งไตจากการตรวจร่างกายธรรมดา

　　ในปี 2010 คุณเฉินเจ๋ออาศัยอยู่ที่เกาะชวาในอินโดนีเซีย เขาเป็นนักธุรกิจคนหนึ่งที่มักจะไม่ค่อยมีเวลาได้พักผ่อน วันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งดื่มชากับภรรยาและพูดคุยด้วยความสนุกสนาน เขามีความรู้สึกปวดที่บริเวณเอวขึ้นมา แต่กลับไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าตนเองน่าจะพักผ่อนน้อยเลยมีอาการเหนื่อยเกินไป

　　ในเดือนเมษายนปี 2010 เนื่องจากต้องพาภรรยาไปตรวจร่างกาย คุณเฉินเจ๋อจึงได้เข้าตรวจร่างกายพร้อมกับภรรยาด้วย จากผลตรวจพบก้อนเนื้อที่บริเวณไตขนาด 1.8 ซม. ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเซลล์มะเร็ง คุณหมอชาวมาเลเซียได้แนะนำให้เขาเข้ารับการผ่าตัด หลังจากเดินทางไปสอบถามและปรึกษาที่มาเลเซียมากว่า 1 ปี ทุกโรงพยาบาลล้วนแต่แนะนำให้เขาเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด แต่เนื่องจากการผ่าตัดนั้นมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เขาจึงลังเลว่าจะทำการผ่าตัดดีหรือไม่ หลังจากตัดสินใจผ่าตัด คุณเฉินเจ๋อก็เริ่มมีอาการไอ และเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในวันผ่าตัด คุณหมอจึงตัดสินใจไม่ผ่าตัดให้กับเขา

　　หลังจากกลับมายังอินโดนีเซีย คุณเฉินเจ๋อก็ยังคงปรึกษาคุณหมอเรื่องการผ่าตัด และไม่หยุดที่จะหาแนวทางการรักษาอื่นๆ วันหนึ่งขณะที่คุณเฉินเจ๋อไปเยี่ยมเพื่อนที่บ้าน และพูดคุยเรื่องการไปรักษาที่มาเลเซีย หลังจากที่เขาได้เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนของเขากล่าวว่า “ฉันรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่มาเลเซียด้วย แต่นี้ก็แสดงให้เห็นว่าเรายังมีโอกาส พอดีฉันได้ยินมาว่าน้องชายของเพื่อนฉันป่วยเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูก อาการหนักมาก ฉันก็ถามเขาว่าไปรักษาที่โรงพยาบาลไหน เขาบอกว่าเขาไปรักษาที่กว่างโจว ที่นั่นเป็นโรงพยาบาลรักษาโรงมะเร็งโดยเฉพาะ ทำไมคุณไม่ลองไปรักษาที่นั่นดูล่ะ”

　　“การรักษาด้วยความเย็นที่ไม่ต้องผ่าตัด”ได้ช่วยฉันเอาไว้

　　หลังจากศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในวันที่ 13 มีนาคม ปี 2011 คุณเฉินเจ๋อได้เดินทางมายังโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าพร้อมกับภรรยา หลังจากตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าก้อนเนื้อที่บริเวณไตนั้นเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้น ประมาณ 2.5*2.4 ซม. ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเซลล์มะเร็ง

　　วันที่ 15 มีนาคม ปี 2011 ศ.นพ.หนิวลี่จื้อได้ทำการรักษาด้วยการจี้สลายเนื้องอกด้วยความเย็นให้กับคุณเฉินเจ๋อ พร้อมนำชิ้นเนื้อไปตรวจ หลังจากการรักษาผลยืนยันว่าเป็นเซลล์มะเร็ง การรักษาผ่านไปได้อย่างประสบความสำเร็จ หลังจากผ่านไป 1 เดือนได้เข้าตรวจ CT SCAN อีกครั้งพบว่าก้อนเนื้อส่วนมากได้ตายลงหลังจากเข้ารับการจี้สลายด้วยความเย็น เหลือเพียงแค่ซเล็กน้อยเท่านั้น ในวันที่ 18 เดือนเมษายนเขาได้เข้ารับการรักษาด้วยความเย็นอีกครั้ง และตรวจซ้ำพร้อมกับทำการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จากผลตรวจ PET/CT ในวันที่ 25 พฤษจิกายน ปี 2011 พบว่าไม่มีการกลับมาเป็นซ้ำของโรค รวมถึงไม่พบการแพร่กระจายไปยังจุดอื่นของร่างกาย

ขั้นตอนการผ่าตัดทั่วไป

ขณะทำการรักษาด้วยความเย็น

　　ในวันที่ 27 พฤษภาคม ปี 2012 คุณเฉินเจ๋อได้ทำการตรวจ CT SCAN ผลปรากฎว่า หลังจากทำการรักษาพบว่าก้อนเนื้อมีขนาดเล็กลงเหลือเพียงก้อนเนื้อเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 1.5 ซม. ซึ่งเล็กลงมากเมื่อเทียบกับผลตรวจก่อนหน้านี้ ในส่วนที่มองเห็นได้มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 1.0 ซม. ซึ่งสามารถเห็นได้ชัด คาดว่าจะกลับมาเป็นซ้ำ ในวันที่ 28 มิถุนายน ปี 2012 เขาได้เข้ารับการรักษาด้วยความเย็นอีกครั้ง หลังจากผ่าตัดก็ออกจากโรงพยาบาลได้ และหลังจากนั้นในเดือนตุลาคม ปี 2016 และสิงหาคม ปี 2017 เขาได้กลับมาตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลเช่นกัน

　　บอกลามะเร็งไตเป็นเวลา8ปี และเริ่มต้นชีวิตใหม่

　　หลังจากทราบว่าคุณเฉินเจ๋อเข้ารับการรักษาด้วยความเย็นในปี 2012 แล้วยังคงแข็งแรงดี ทางโรงพยาบาลได้ทำการติดต่อกับเขา ในวันที่ทำการสัมภาษณ์คุณเฉินเจ๋อเดินมาต้อนรับพวกเราโดยที่ยังไม่ได้แต่งตัวและผมยุ่งเล็กน้อย เขาเล่าสถานการณ์ของเขาในช่วงที่ผ่านมานี้ให้กับพวกเราฟัง เขาเข้ามาตรวจร่างกายห่างจากครั้งที่แล้วประมาน 2 ปี เพื่อตรวจดูว่าร่างกายนั้นแข็งแรงดีหรือไม่ เขากับภรรยาจึงรีบมาตรวจร่างกาย ซึ่งจากผลตรวจครั้งนี้พบว่าร่างกายของเขายังแข็งแรงมาก คุณเฉินเจ๋อพูดด้วยความดีใจว่า “หลังจากทำการรักษามา ผมไม่เคยเข้ารับการผ่าตัดเลย และรู้สึกขอบคุณเพื่อนมากๆที่ทำให้รู้จักกับฟูด้า หลังจากมาที่ฟูด้า สิ่งที่ทำให้คิดไม่ถึงเลยก็คือแค่ทำการรักษาด้วยความเย็นก็สามารถรักษาโรคมะเร็งของผมได้แล้ว ขอบคุณคุณหมอที่ทำให้ผมเจ็บน้อยลง ทำให้ผมมีชีวิตอย่างมีความสุขในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา หลังจากนี้ต่อไปผมจะกลับมาตรวจร่างกายทุกปีครับ”

　　ภรรยาของคุณเฉินเจ๋อกล่าวพร้อมน้ำตา “ตั้งแต่เขาเป็นโรคนี้ ครอบครัวพวกเรากังวลใจมาก ต้องขอบคุณฟูด้ามากจริงๆ ขอบคุณคุณหมอและพยาบาลทุกท่านที่ตั้งใจทำงานเป็นอย่างดี ทำให้พวกเราสบายใจมาก พอรู้ว่าพวกเราจะมาที่นี้ก็ส่งรถไปรับ บริการดีมากๆ ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจมาก สามีของฉันตอนนี้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างแข็งแรงล้วนมาจากการทำงานที่หนักของพวกเขา”

　　การรักษาด้วยความเย็น   

　　การรักษาทำภายใต้การนำทางของอัลตราซาวด์ CT SCAN หรือ MRI และใช้เข็มที่ออกแบบมาเป็นพิเศษแทงเข้าไปยังบริเวณเนื้องอกและปล่อยความเย็นเข้าไปที่เนื้องอกจนถึงอุณหภูมิติดลบ 160 องศาเซลเซียส และกลับมาเป็นอุณหภูมิ 20-40 องศาเซลเซียส ทำแบบนี้สลับไปมา 2-3 ครั้งเพื่อสลายก้อนเนื้อทั้งหมด จนทำให้ก้อนเนื้อตายลง

　　ข้อดี

　　1. สามารถใช้รักษาได้กับทั้งก้อนเนื้อขนาดเล็ก และก้อนเนื้อขนาดใหญ่ รวมถึงสามารถใช้ได้กับก้อนเนื้อก้อนเดียว หรือที่เป็นแบบหลายก้อน

　　2. การรักษาด้วยความเย็นจะไม่ทำลายเส้นเลือดใหญ่ หลอดลม และหลอดอาหาร

　　3. การรักษาด้วยความเย็นนั้นไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด แต่สามารถช่วยลดอาการปวดได้

　　4. สามารถตรวจสอบขอบเขตการรักษาด้วยความเย็นอย่างแม่นยำได้จาก CT SCAN หรืออัลตราซาวด์

　　5. หลังจากที่ก้อนเนื้อถูกสลายด้วยความเย็น จะปล่อยสารแอนติเซน ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของภูมิคุ้มกัน