คุณปู่จางกับโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจวในสังกัดมหาวิทยาลัยจี้หนาน

　　เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคม เมื่อพูดถึงคุณปู่ท่านนี้แล้วล่ะก็เจ้าหน้าที่แพทย์จะรู้สึกถึงความประทับใจอย่างลึกซึ้ง คุณปู่จางมาจากตุนหวง มณฑลกานซูในปี 2016 เขาไปโรงพยาบาลท้องถิ่นเพื่อรับการรักษาเนื่องจากอาการปวดหลัง ผลการวินิจฉัยออกมาว่าเป็นเพียง  "อาการปวดกล้ามเนื้อส่วนเอว" หลังจากเข้ารับการรักษาตามอาการแต่ไม่ได้ผลเท่าไหร่นัก อาการแย่ลงเรื่อยๆ ซ้ำยังมีการกระจายไปที่ปลายขาข้างขวาอีกด้วย ในต้นเดือนมกราคมปี 2017 พบว่าในช่องท้องขวามีก้อนเนื้อ วันที่ 13 เขาได้รับการผ่าตัดซึ่งแสดงให้เห็นว่าเนื้องอกที่ลำไส้แพร่กระจายไปยังเยื่อบุช่องท้อง และลุกลามเข้าไปในกล้ามเนื้อที่เอว  ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2018 มีอาการปวดท้องบริเวณฝั่งด้านขวา  ในเดือนมิถุนายนจึงได้ทำ  CT SCAN ผลพบว่าเนื้องอกกลับมาเป็นซ้ำอีก แม้ว่าจะสามารถทำการผ่าตัดได้ แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะหายขาด ทำได้เพียงแค่ซื้อเวลาชีวิตให้ผ่านไปได้เท่านั้น ทุกครั้งที่เขาไปด้วยความหวังเขาจะท้อแท้กลับมา คุณปู่จางที่เคยร่าเริงก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน เขารู้สึกสิ้นหวังและหมดกำลังใจ คุณปู่ปฏิเสธการรักษาทุกอย่าง ในใจก็คิดไปถึงภาพข้างหน้าที่เตรียมจัดงานศพให้ตัวเองเสียแล้ว

　　หลังจากคุณปู่จางปฏิเสธเข้ารับการรักษา เขาก็เก็บตัวอยู่ที่บ้านพร้อมความสิ้นหวัง แต่ว่าครอบครัวของคุณปู่ไม่เคยยอมแพ้ที่จะหาหนทางการรักษา พวกเขาบังเอิญดูผ่านโทรทัศน์ช่องที่แนะนำโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดมหาวิทยาลัยจี้หนาน เกี่ยวกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนวคิดทางการรักษามะเร็งขั้นสูง พวกเขาตัดสินใจลองโทรศัพท์ติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษา เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาต่อไป เจ้าหน้าที่บริการเป็นอย่างดีเพื่อให้เขามีความมั่นใจที่จะเดินทางมาพบแพทย์ จากสายโทรศัพท์วันนั้นก็ได้นำพาครอบครัวเขาเดินทางจากตุนหวง มณฑลกานซู สู่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า

　　วันที่ 17 มิถุนายน นพ.หวังเฟิงได้ให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษากับคุณปู่จางเป็นครั้งแรก หลังจากการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด นพ.หวังเฟิง แจ้งกับคุณปู่จางว่า "จากผลตรวจที่ออกมาคือมะเร็งอยู่ในระยะลุกลามหลายจุดในช่องท้อง แผนการรักษาคือการให้คีโมเฉพาะจุด หากประสบความสำเร็จก็จะมีโอกาสสูงในการควบคุมมะเร็งได้ดี" คุณปู่จางและครอบครัวของเขารู้สึกถึงความหวังในครั้งนี้ ในช่วงแรกของการรักษาที่โรงพยาบาล นอกเหนือจากพูดคุยกับแพทย์แล้ว คุณปู่จางก็ไม่เต็มใจที่จะคุยกับใครทั้งนั้น พยาบาลที่ดูแลเขาคิดเห็นว่าบางทีอาจจะมาจากความเจ็บปวดทางใจและคุณปู่เพียงแค่อยากเก็บความเจ็บปวดนั้นไว้เพียงคนเดียว  หัวหน้าพยาบาลจี้ฮุ่ยเห็นเขาเข้า เธอจึงค่อยแวะเวียนมาเล่าเรื่องตลก และเรื่องราวน่าสนใจให้คุณปู่จางทุกวัน  ทุกๆคนให้ความสนใจกับคุณปู่อย่างเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ทีมแพทย์และพยาบาลก็จะค่อยถามไถ่เขาตลอด ดูแลเขาเหมือนคนในครอบครัวให้ความเคารพและความใส่ใจในทุกๆวัน  ประกอบกับกำลังใจจากคนในครอบครัวเช่นกัน  ในเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ก็ได้มีจัดงานเลี้ยงเล็กๆ และร้องเพลง "เพลงแห่งดอกโบตั๋น" บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น เสียงร้องเพลงตามกัน สีหน้าของคุณปู่เปลี่ยนไปดีขึ้นทีละนิด ครอบครัวคุณปู่เห็นยังงั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ  เหล่าเจ้าหน้าที่และพยาบาลต่างก็ยินดีกับเรื่องนี้

　　นพ.หวังเฟิงร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลได้วางแผนการรักษาให้กับคุณปู่จางอย่างครบด้าน เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนถึงวันที่ 11 กันยายน คุณปู่จางรับยาคีโมเฉพาะจุดทั้งหมดห้าครั้ง ซึ่งควบคุมการลุกลามของมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการเกิดซํ้าและการแพร่กระจายของเนื้องอก อย่างไรก็ตามโรคท้องร่วงหลังการรักษาทำให้เขาและครอบครัวเหนื่อยล้า ในเวลานี้ทีมพยาบาลพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้พวกเขามีความสุข ทุกคนทักทายเขาอย่างนุ่มนวลและสร้างกำลังใจให้ฮึดสู้ขึ้นมา ในท้ายที่สุดเมื่อได้พบกับคุณปู่จางอีกครั้งไม่มีใครเห็นความเศร้า และความเจ็บป่วยของเขาอีกเลย หลังจากได้รับคีโม ในบทบาทของการดูแลและความใส่ใจของเจ้าหน้าที่การแพทย์ เขารู้สึกอบอุ่นในหัวใจของเขาดังนั้นเขาจึงแสดงโอเปร่าปักกิ่งเพื่อขอบคุณทุกคน "ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือและความห่วงใยของคุณ ขอบคุณ..คุณเป็นดวงอาทิตย์เล็กๆที่ส่องแสงสว่าง"

　　จนถึงในวันนี้ คุณปู่จางได้กลับมาร่าเริงเหมือนเขาคนเก่าในอดีตที่เคยสดใส สิ่งหนึ่งที่เขาไม่สามารถจะลืมได้คือความประทับใจในโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า และบุคคลที่เขาจดจำมากที่สุด นพ.หวังเฟิง หัวหน้าพยาบาลจี้ฮุ่ย และเหล่าทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้ใช้ความรู้และประสบการณ์อย่างสุดฝีมือเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย เขาชื่นชมในความสามารถ ทักษะมืออาชีพ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใช้ใจรักษาผู้ป่วย คืออุดมการณ์ของหมอที่มีในที่นี้

　　ประสบการณ์ผู้ป่วยที่ปรากฏให้เห็นในโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดมหาวิทยาลัยจี้หนานแห่งนี้เต็มไปด้วยความผูกพันธ์และเรื่องราวอันน่าประทับใจเปรียบเสมือนอัศวินม้าขาวที่เข้ามาอยู่ในเรื่องนี้

โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดมหาวิทยาลัยจี้หนาน ทีมพยาบาลชั้น 4