วันที่ 28 พฤษจิกายน ปี 2018 คุณป้ามู่ผู้ป่วยจากเซี่ยเหมินก็หายใจได้เต็มปอด ในตอนที่รอง ผอ.หนิวลี่จื้อและคุณหมอหลงซินอานเข้ามาตรวจร่างกาย เธอมักจะปฎิบัติตามแต่โดยดีและยิ้มแย้มเสมอ เธอถามคุณหมอว่าเมื่อไหร่เธอจะออกจากโรงพยาบาลได้ เมื่อคุณหมอแจ้งว่าอีกสามวันเธอก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เธอทำหน้าตกใจพร้อมกับถามว่า “คุณหมอหนิว เมื่อสามวันที่แล้วฉันเพิ่งเข้ารับการรักษาด้วยความเย็นไปเองนะคะ ไม่ใช่ว่าอีกอาทิตย์หนึ่งถึงจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เหรอคะ” หลังจากได้รับการยืนยันจากคุณหมอว่าอีกสามวันเธอก็สามารถออกจากโรงพยาบาลกลับเซี่ยเหมินได้ เธอก็ยิ้มอย่างมีความสุข พร้อมกล่าวขอบคุณคุณหมอและพยาบาลเสียงดัง

　　เธอปฏิเสธการรักษาฟรีที่ประเทศนิวซีแลนด์

　　คุณป้ามู่วัย 69 หลังจากเกษียณอายุก็อาศัยอยู่กับลูกชายที่ประเทศนิวซีแลนด์ และได้รับกรีนการ์ด เธอกลับไปที่เซี่ยเหมินบางครั้ง ปีนี้ในเดือนกรกฎาคมเธอเดินทางกลับมาที่เซี่ยเหมินคนเดียว และในระหว่างดูโทรทัศน์เธอได้ยินคำว่า “ปอดเป็นกระจกฝ้า” และมันรู้สึกสะกิดใจเธอ เนื่องจากในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเธอได้ไปตรวจร่างกายและพบคำนี้อยู่ในผลตรวจของเธอ เมื่อเทียบกับการทำ CT SCAN บริเวณช่วงอก กับผลเมื่อเดือนมีนาคมปรากฎว่า กลีบปอดขวาด้านล่างและกลีบปอดซ้ายด้านบนมีฝ้าอยู่ ในตอนนั้นฝ้าที่บริเวณปอดของเธอยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เธอรู้สึกสบายใจมาก แต่คุณหมอยังแนะนำให้ตรวจติดตามอาการอยู่เรื่อยๆ อย่าละเลย ในเดือนตุลาคมเธอได้ไปตรวจอีกครั้ง พบว่าฝ้าไม่มีการขยายใหญ่ขึ้น แต่มีขนาดหนาขึ้น ตอนนั้นเองที่เธอจำได้ว่าที่เธอได้ยินจากโทรทัศน์ว่าถ้าหากฝ้าในปอดมีความหนาแน่นขึ้นจำเป็นต้องระมัดระวัง เพราะว่าถ้าหากฝ้ามีความหนาแน่นขึ้นหมายความว่าโรคมีการลุกลาม

　　ฝ้าบริเวณช่วงปอดเกิดจากแก๊สตรงบริเวณปอด ซึ่งรอยโรคจะเกิดไปตามแนวถุงลม แต่จะไม่ไปกระทบกับถุงลม แต่ความหนาแน่นของฝ้าในปอดจะมากกว่าเนื้อเยื่อปกติ เวลาตรวจ CT SCAN จึงพบเป็นจุดที่มีลักษณะคล้ายฝ้า ซึ่งโดยทั่วไปแล้วฝ้าในปอดจะเป็นอาการเปลี่ยนแปลงของโรคมะเร็งหรือ เป็นอาการเริ่มต้นของโรคมะเร็งปอด

　　ผลตรวจทำให้คุณป้ามู่รู้สึกเริ่มไม่สบายใจ เธอโทรหาญาติที่นิวซีแลนด์ให้ไปปรึกษากับโรงพยาบาลที่ดีที่สุด แต่แผนการรักษาที่โรงพยาบาลเหล่านั้นให้มาล้วนทำให้เธอรู้สึกกลุ่มใจ เพราะว่าเธอตรวจพบฝ้าที่ปอดทั้งสองข้าง ถึงแม้จะเป็นระยะแรก แต่ก็มีขนาดถึง 6 มิลลิเมตร  นอกจากผ่าตัดแล้ว การจะนำชิ้นเนื้อไปตรวจนั้นค่อนข้างยากที่จะเจาะไปตรวจ  หรือกล่าวได้ว่า หากต้องการทราบชนิดของเนื้อเยื่อนี้ก็เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงการผ่าตัดซึ่งมีความเจ็บปวด ซึ่งทำให้คุณป้ามู่เกิดความกังวลใจเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเธอได้ทราบว่าการสลายเนื้องอกด้วยความเย็นนั้นสามารถสลายก้อนเนื้อได้ แต่ที่นิวซีแลนด์นั้นยังไม่มีเทคนิคการรักษานี้ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจไม่กลับไปรักษาที่นิวซีแลนด์ ถึงแม้เธอจะสามารถทำการรักษาที่นิวซีแลนด์ได้ฟรี แต่เธอก็ยังยืนยันที่จะไม่ไปทำการรักษา

　　รีบมายัง “ฟูด้า” โดยเฉพาะ

　　หลังจากนั้น เธอและญาติได้ทราบข่าวว่าโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนานมีเทคนิคการสลายเนื้องอกด้วยความเย็นที่สามารถจี้สลายรอยโรคได้ แต่การรักษาแบบนี้ไม่ใช่การผ่าตัดทั่วไป แต่เป็นการรักษาแบบบาดแผลเล็ก หลังจากทราบข่าวนี้คุณป้ามู่รู้สึกมีความหวังขึ้นมา เธอได้โทรศัพท์ติดต่อโรงพยาบาลเพื่อทำการปรึกษา ทีมแพทย์ได้ประเมินอาการและวางแผนการรักษาให้เธอและเธอรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก จึงรีบนั่งรถจากเซี่ยเหมินมาโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า กว่างโจวทันที

　　เมื่อคุณป้ามู่เดินทางมาถึงโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า เธอได้พบกับ ศ.นพ.หนิวลี่จื้อ และ นพ.หลงซินอาน โดย นพ.หลงซินอานได้แนะนำว่า “คุณป้าท่านนี้ตรวจพบรอยฝ้าที่บริเวณกลีบปอดขวาด้านหลังและกลีบปอดซ้ายด้านบน และตรวจพบจุดปอดอักเสบใหม่ การวินิจฉัยเบื้องต้นคือจะต้องพิจารณาลักษณะของรอยโรคหลายจุดในปอด หากทำการผ่าตัดจะต้องผ่าที่ปอดทั้งสองข้าง ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บมาก ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยที่อายุเยอะส่วนมากจะเกิดความกลัวได้ง่าย ในกรณีเช่นนี้การรักษาด้วยความเย็นนั้นจะสามารถทำลายการเจริญเติบโตของรอยโรคได้ พอรู้ว่าพรุ่งนี้ต้องทำการรักษา คุณป้ามู่ก็รู้สึกเกิดความกังวล เมื่อพยาบาลเห็นว่าเธอรู้สึกกังวล จึงพยาบาลพูดคุยกับเธอ เธอจับมือพยาบาลพร้อมพูดว่า “ขอบคุณพวกเธอมากนะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่รบกวนเวลาหลังเลิกงาน” พยาบาลตอบว่า “หากทำให้คุณป้าสบายใจพวกหนูก็ดีใจแล้วค่ะ เลิกงานช้านิดหน่อยไม่เป็นไร ไม่ต้องเลิกงานวันนี้ก็ยังได้ค่ะ” พูดจบพยาบาลก็จับมือของเธอเพื่อทำให้คุณป้ามู่รู้สึกสบายใจ

　　การสลายเนื้องอกที่ด้านหลังปอดขวา

　　วันที่ 26 พฤษจิกายน คุณป้ามู่ถูกพาตัวไปยังห้องผ่าตัดเพื่อทำการวางยาสลบในการเตรียมตัวเข้ารับการรักษาด้วยความเย็น หลังจากวางยาสลบแล้ว ทีมแพทย์ก็คว่ำตัวเธอลง และได้ใช้เครื่อง CT SCAN ในการกำหนดจุดเป้าหมายตรงบริเวณปอดด้านขวา และทำการรักษาด้วยความเย็น ในระหว่างการรักษา ทีมแพทย์ได้ตรวจสอบบริเวณการจี้สลายก้อนเนื้อและตรวจสอบภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยผ่านทางเครื่อง CT SCAN หลังจากที่ก้อนเนื้อถูกแช่แข็งไปสองรอบ รอบละ 5 นาที เครื่อง CT SCAN ก็แสดงให้เห็นว่าก้อนเนื้อได้ถูกทำลายไปอย่างประสบความสำเร็จ และยังเห็นถึงขอบเขตของการสลายก้อนเนื้องอกด้วยความเย็น ระหว่างการผ่าตัดพบว่าผู้ป่วยมีเลือดออกเพียงแค่ 2 มิลลิลิตรเท่านั้น หลังจากฟื้นจากยาสลบ ไม่พบอาการผิดปกติใดๆ คนไข้ปลอดภัยดี

　　หลังจากผ่านไปสามวัน ก้อนเนื้อของคุณป้ามู่ก็ถูกสลายไป พร้อมไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ เธอออกจากโรงพยาบาลไปด้วยความดีใจ

　　ศ.นพ.หนิวแนะนำว่าในปัจจุบันนั้นมีคนหลายคนที่ตรวจเจอร่องรอยโรคจากการตรวจร่างกาย สำหรับกรณีที่ไม่เหมาะสำหรับการผ่าตัด หรือกรณีที่มีเนื้องอกที่ไม่สารถผ่าตัดออกได้อย่างหมดจด หรือกรณีที่รู้สึกกังวลในระหว่างรอดูอาการ ผู้ป่วยเหล่านี้นั้นการรักษาด้วยความเย็นนั้นเป็นทางเลือกที่ใหม่สำหรับพวกเขา