• ปรึกษาหมอมะเร็งฟรี
  • วิธีการรักษาแบบใหม่
  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • เรื่องราวของผู้ป่วย
หน้าหลัก / เรื่องราวของผู้ป่วย

แอร์โฮสเตสฮ่องกงกล่าวว่า “สู้กับมะเร็งเต้านมมา 7 ปี ฉันพ้นมาได้แล้ว”

มะเร็งเต้านม

Author:NoneFrom:FUDA

  มะเร็งไม่ว่าเกิดกับใครล้วนทำให้หวาดกลัวหมดทุกคน

  

fuda08_644529.jpg


  คุณหลอ อายุ 46 ปี มาจากเมืองฮ่องกง 7 ปีที่แล้วเธอเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินระหว่างประเทศ เธอบอกผู้เขียนว่า ทุกครั้งที่สวมชุดทำงานใส่รองเท้าส้นสูง ลากกระเป๋าเดินทางไปตามสนามบินทั่วโลก ไปทั่วทุกมุมโลก การบินทุกครั้งทำให้เธอมีแต่ความเบิกบานใจ เธอชอบบินไปที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์มากที่สุด เพราะทัศนียภาพสวยมาก แม้ว่างานยุ่งแต่ก็ชอบชีวิตแบบนี้มาก แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อต้นปี 2552 เอกสารวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งของแพทย์ใบนั้นจะทำให้ชีวิตของเธอสะดุดลง เธอจำต้องลาออกจากงานแอร์โฮสเตสตระเวนหาหมอ มันคือช่วงเวลาแห่งความมืดมิดในชีวิตของเธอ คุณหลอเล่าเรื่องตัวเองดังนี้ เมื่อเดือนมีนาคมปี 2552 ฉันเป็นมะเร็งเต้านม ต้นเดือนมีนาคมวันหนึ่ง ฉันรู้สึกคันๆตรงเต้านม เมื่อใช้มือไปเกาเลยคลำเจอก้อนเนื้อเล็กๆที่เต้านมข้างขวา ขณะนั้นคำว่ามะเร็งเต้านมเริ่มผลุบขึ้นมาในสมอง แต่ในใจก็ยังคิดว่าไม่น่าจะโชคร้ายขนาดนั้น

  เข้าวันที่สอง ฉันแอบไปตรวจที่คลีนิคเอกชนแห่งหนึ่งในฮ่องกง แพทย์ตรวจอัลตร้าเซาด์ทำการเจาะให้ฉันเสร็จแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า เป็นเนื้องอกเส้นใย (Fibroma) ไม่ใช่เนื้อร้าย ผ่าตัดออกแล้วก็หมดปัญหา

  คำพูดของคุณหมอทำให้ฉันสบายใจขึ้น แต่ก่อนผ่าตัดหนึ่งวันได้รับโทรศัพท์จากคุณหมอว่า ผลตรวจของคุณน่าจะเป็นเนื้อร้าย ถึงอย่างไรคุณมาทำการผ่าตัดไปเถอะ ผมจะผ่าให้คุณ หากผลชิ้นเนื้อตอนผ่าตัดออกมาเป็นเนื้อร้าย ผมจะตัดเนื้อให้คุณมากหน่อย คำพูดแบบไม่มั่นใจของหมอทำให้ฉันขาดวามเชื่อมั่นเขา และตัดสินใจไปหาหมอที่เชี่ยวชาญกว่านี้

  เดือนพฤษภาคมปี 2552 จึงได้ทำการผ่าตัด อีกสองเดือนผ่านไป ฉันไปหาศาสตราจารย์แผนกเนื้องอกที่มีเชื่อเสียงท่านหนึ่งในฮ่องกง ตรวจอัลตร้าเซาต์พบว่าเนื้องอกโต 2 ซม. หลังผ่าตัดเสร็จศาสตราจารย์พูดกับฉันอย่างจริงจังว่าเนื้องอกตัดออกแล้ว แต่ร่างกายของคุณยังเหลือเซลล์มะเร็ง 15% หากคุณรับคีโมและฉายแสงเซลล์มะเร็งจะลดลงได้ 10% ส่วนที่เหลือ 5% ก็ขึ้นอยู่กับบุญวาสนาของคุณ คำพูดเย็นชาของศาสตาจารย์ทำให้ฉันรู้สึกผวา ฉันไม่อยากฝากชีวิตกับหมอเย็นชาเช่นนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2552 รับการดูแลแบบองค์รวมและสมุนไพรโดยการแนะนำจากเพื่อน ฉันเริ่มรับการดูแลแบบธรรมชาติและรับประทานยาจีน ผ่านไปครึ่งปีตรวจไม่พบเชื้อมะเร็งในร่างกาย หมอแนะนำให้ทานอาหารอินทรีย์และยาจีนต่อ และฉันก็ทำตามเป็นระยะเวลา 4 ปีกว่า เดือนพฤษภาคมปี 2557 พบก้อนเนื้อที่นมขวาอีก เมื่อต้นปี 2557 ฉันรู้สึกร่างกายฟื้นฟูได้ดีจึงหยุดการรับการดูแลแบบธรรมชาติและยาสมุนไฟจีน แล้วกลับไปทำงานใหม่ แต่เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2557 พบก้อนเนื้อที่เต้านมขวาอีกฉันรับการดูแลแบบธรรมชาติอีก แต่ควบคุมมะเร็งไม่ได้ ปลายปี 255 7ตรวจประกฎว่าก้อนเนื้อโตขึ้นถึง 8×6 ซม. ผลตรวจชิ้นเนื้อออกมาว่าเป็นมะเร็งเต้านม Infiltrating ductal carcinoma มะเร็งกำเริบหลังการผ่าตัด ฉันท้อแท้จนไม่อยากทำการเข้ารับการดูแลต่อ แต่ทำไม่ได้ไม่อยากทิ้งคุณพ่อคุณแม่ที่อายุมากไป หนังสือสองเล่มนั้นทำให้ฉันรู้จักฟูด้า

  ในช่วงเวลาที่ฉันกำลังเสาะหาวิธีการรับการดูแลที่เหมาะสม ฉันนึกขึ้นได้ว่าสามปีก่อนขณะไปซื้ออาหารบำรุงที่ร้าน เจ้าของร้านรู้ว่าฉันเป็นมะเร็งแล้วเคยยืมหนังสือเรื่อง“ผมพูดความจริงกับผู้ป่วยมะเร็ง” เล่มหนึ่งมาให้ฉันอ่าน ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้คือผู้อำนวยการของโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจว ศาสตราจารย์สวีเค่อเฉิง หลังจากได้อ่านหนังสือของศาสตราจารย์สวีเค่อเฉิง ฉันยอมรับแนวทางการดูแลของท่านและประทับใจกับโรงพยาบาลนี้

  ขณะเดียวกันฉันก็นึกถึงเรื่อง เมื่อ10ปีก่อน เพื่อนคนหนึ่งตรวจพบว่าเป็นมะเร็งไขมันระยะสุดท้าย หมอฮ่องกงบอกว่าเขาเหลือชีวิตเพียง 3 เดือน หลังจากนั้น เขาได้รับการผ่าตัดด้วยความเย็นดูแลแบบองค์รวมที่โรงพยาบาลฟูด้า ได้ยืดอายุไปได้6ปีกว่า แต่น่าเสียดายเขาขาดการตรวจติดตามผลตามเวลานัด โรคกลับกำเริบมาไม่นานก็เสียชีวิต

  เมื่อต้นปี 2559 เพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานโทรหาฉัน เขาเป็นชาวอินโดนีเซียเซื้อสายจีนเป็นล่ามในโรงพยาบาล และไปฟังการบรรยายของโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าหลายครั้ง และให้เอกสารของฟูด้ากับฉันมาจำนวนมาก ในนั้นมีหนังสือใหม่เล่มหนึ่งเขียนโดย ศาสตราจารย์สวีเค่อเฉิงคือ“อยู่ด้วยกับมะเร็ง” เขาพูดกับฉันหลายครั้งว่าให้ไปฟังการบรรยายของผู้อำนวยการโรงพยาบาลฟูด้าหนิวลี่จื้อเมื่อวันที่1มินาคมที่ฮ่องกง วันที่1มินาคม ฉันได้ไปฟังการบรรยายของดร.หนิว และขอคำปรึกษาท่าน ท่านเป็นคนถ่อมตัว อ่อนน้อม มีน้ำใจ ฉันประทับใจมาก ปี 2559 ไปเข้ารับการดูแลที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า

  เมื่อวันที่3มิถุนายนนี้ ฉันเดินทางไปเข้ารับการดูแลที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า รับการดูแลด้วยคีโมเฉพาะจุด เนื้องอกที่กำเริบในเต้านมข้างขวาและจุดที่กระจายไต้รักแร้เล็กลง ที่สำคัญคือการดูแลไม่ทำให้ฉันเจ็บปวดอะไร เมื่อวันที่6 มิถุนายน ศาสตราจารย์น.พ.หวังเจี้ยนหนาน ได้ทำการผ่าตัดมะเร็งเต้านมให้ฉัน อาจารย์หวังเจี้ยนหนานใจดีกับผู้ป่วยมาก ก่อนผ่าตัดท่านพูดกับฉันว่าต่อมน้ำเหลืองไต้กระดูกไหปลาร้ากับต่อมน้ำเหลืองไต้รักแร้ขวาเกาะติดกัน การผ่าตัดค่อนข้างยุ่งยาก แต่เขามั่นใจว่าจะทำได้ ก็แล้วเป็นไปอย่างที่พูด การผ่านตัดสำเร็จด้วยดี ฉันขอบคุณเขามาก หลังการผ่าตัดฉันฟื้นตัวได้ดี ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ในช่วงที่พักเพื่อรับการดูแลที่โรงพยาบาลฟูด้า ฉันพอใจกับแพทย์พยาบาลที่นี่มาก พวกเขาไม่เพียงแต่มีเชี่ยวชาญกับเทคนิคยังเปี่ยมด้วยน้ำใจกับผู้ป่วย แพทย์เจ้าของไข้ของฉันสือหงเซียเอาใจใส่ฉันตลอดทั้งคอยให้กำลังใจทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่สู้อยู่คนเดียว

  

news-21-11-2559-2.jpg

คุณหลอกับคุณหมอสือหงเซีย

  

news-21-11-2559-3.jpg

(จากซ้าย) คุณหมอจาน คุณหลอ คุณหมอสือหงเซีย

  

news-21-11-2559-4.jpg

คุณหลอกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล

  ทุกครั้งทำการรับการดูแลเสร็จกลับไปฮ่องกง เพื่อนๆต่างพูดว่า“เธอหน้าตาสดใสมาก ไม่เหมือนผู้ป่วยเลย” หลังจากป่วย ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจ ฉันขอบคุณคนในบ้าน เพื่อนๆและแพทย์พยาบาลที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า ที่ทำให้ฉันมีกำลังใจและสร้างพลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง ฉันรอดพ้นมาได้แล้ว ขออวยพรให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกคนต่างเอาชนะโรคได้ และมีความสุข


วิธีการรักษา
แพทย์ที่เกี่ยวข้อง
  • ศ.นพ.สวีเค่อเฉิง...

การรักษาที่กำลังนิย
  • การรักษาด้วยการให้ยาผ่านทางเส้นเลือด

  • การรักษาด้วยความเย็น (Cryosurgical Ablation, CSA)

  • การรักษาด้วยมีดนาโน (IRE)

  • การรักษาด้วยคลื่นไมโครเวฟ

  • การรักษาด้วยแสงจำเพาะ (Photodynamic Therapy, PDT)

  • การรักษาโดยสร้างภูมิคุ้มกันแบบองค์รวม

  • การรักษาด้วยเครื่องอบความร้อนด้วยคลื่นไมโครเวฟ

  • โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
  • โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
  • ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
  • ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ