ในห้องผู้ป่วยชั้น 5 นาง Dayang Mahani ผู้ป่วยจากซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย นั่งอย่างเรียบร้อยอยู่บนโซฟาสีขาว คลุมศรีษะด้วยผ้าสีรากบัว สวมกระโปงยาวลายดอกสีไวโอเล็ตที่เข้ารูป แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาในห้อง ทำให้เห็นสีสดงดงาม ใต้ผ้าคลุมเผยแววตาอันเปี่ยมด้วยความใสซื่อ นาง Dayang Mahani กำลังบอกเล่าเรื่องการเดินทางไกลของเธอ

　　Dayang Mahani มาจากชายทะเลที่สวยงามของเมืองซาบาห์ประเทศมาเลเซีย เธอเป็นชาวมุสลิมที่มีความเคร่งครัด ในกรกฎาคมปีนี้มีข่าวร้ายที่บั่นทอนที่สงบสุขของเธอ

　　ข่าวร้ายเกิดขึ้น

　　ในกิจกรรมรวบกลุ่มครั้งหนึ่ง Dayang Mahani เป็นลมล้มลงในงาน มีเลือดออกในลำไส้จำนวนมาก เธอถูกส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาล คาดไม่ถึงว่าความเคราะห์ร้ายจะมาถึงตัวเธอ ผลการตรวจเลือดและการส่องกล้อง แจ้งข่าวร้ายว่าเธอถูกเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ “นาทีนั้นชีวิตของดิฉันกำลังถึงที่สิ้นสุด เหมือนเวลาสุดท้ายของดิฉันกำลังจะใกล้เข้ามา” Mahani บอกกับผู้เขียน ทราบมาว่าเมื่อกุมภาพันธ์ ปี 2558 Mahani ก็เริ่มมีโลหิตจางแบบเฉียบพลัน แต่เนื่องจากว่าเธอเป็นโรคไตวายมาหลายปี จึงทำให้เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเกิดเลือดจางคราวนั้น คิดไม่ถึงว่ากรกฎาคมปีนี้ การล้มป่วยครั้งที่ 2 เกิดจากโรคมะเร็ง

　　จากนั้นมา Mahani ก็ได้ตรวจตามโรงพยาบาลหลายแห่งในมาเลเซีย จากผลตรวจหลายครั้ง คุณหมอที่มาเลเซียระบุว่า Mahani มีทั้งโรคความดัน โลหิตสูง เบาหวาน โรคไตวาย การผ่าตัดมะเร็งลำไส้ต้องใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง ดูจากสภาพร่างกายของเธอการผ่าตัดนั้นมีความเสี่ยงอย่างสูง เธออาจจะเสียชีวิตจากไตวายได้

　　คำพูดของคุณหมอนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกไม้ทุบศรีษะ เธอหมดหวัง ซึมเศร้า หวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก เธอได้ลองใช้สมุนไพรและวิธีการเอาชนะอีกหลายอย่างมาแล้วหลายวิธี Mahani กล่าวว่า “ดิฉันรู้สึกชีวิตมีคุณค่าอย่างยิ่ง ทุกคนมีชีวิตเดียว ดิฉันยังไม่อยากตาย แล้วดิฉันจะทำอะไรได้ล่ะ”

　　พบความหวังของมีชีวิตใหม่

　　Mahani จะอ่านคัมภีร์กุรอ่านทุกวันตอนเช้า เธอเชื่อว่าพระเจ้าจะนำแสงสว่างและชีวิตใหม่มาให้เธอ มีอยู่วันหนึ่ง น้องสาว Mahani ดูทีวีที่บ้าน พูดกับเธออย่างตื่นเต้นว่า รีบมาดูทีวีนิซิ Mahani หันไปตามเสียงพูด ในทีวีกำลังออกข่าวเทคโนโลยีการผ่าตัดด้วยมีดนาโนของโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจว แต่น่าเสียดายที่เมื่อ Mahani เห็นข่าว ข่าวกำลังจะจบแล้ว เธอจำได้แต่ชื่อ “ฟูด้า” จึงรีบไปค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต

　　“ดิฉันพบข้อมูลผู้ป่ายจำนวนมากที่ผ่าตัดได้ผลดีด้วยเทคนิคมีดนาโนจากโรงพยาบาลฟูด้า จึงพูดกับสามีว่า "ฉันจะติดต่อโรงพยาบาลนี้" Mahani อดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะนี่คงเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ช่วยให้เธอรอดตายได้ เธอต้องคว้ามันให้ได้ Mahani จึงส่งข้อมูลการตรวจไปขอคำปรึกษา และเฝ้ารอคำตอบ

　　เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าการรอคอยทำให้ Mahani ทรมานใจมาก ไม่กี่วันผ่านไป เธอได้รับข่าวดีมาว่า คุณหมอที่ฟูด้าอ่านผลตรวจจาก CT ของเธอแล้วเชื่อว่าเธอยังสามารถรับการดูแลด้วยการผ่าตัดได้ หลังจากได้รับคำตอบจากแพทย์ Mahani ได้ทำการตัดสินใจในครั้งที่สำคัญ และเดินทางไปกว่างโจว

　　รับการดูแลด้วยการผ่าตัด

　　ในเดือนกันยายนปีนี้ Mahani และญาติได้จากเมืองซาบาห์ประเทศมาเลเซียเดินทางมาถึงกว่างโจวประเทศจีน อาการแรกรับของเธอค่อนข้างจะหนัก โรงพยาบาลได้ตรวจเช็คก่อนผ่าตัดให้เธออย่างละเอียด

　　แพทย์เจ้าของไข้ของเธอคือคุณหมอซือจวนจวน กล่าวว่า Mahani มีนํ้าหนักตัวค่อนข้างเยอะ ค่า BMI สูงกว่า 35 เคยมีอาการเลือดออกจากลำไส้และหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุ อีกทั้งยังเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง สมรรถภาพไตเสื่อมต้องฟอกไต ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการผ่าตัด

　　แพทย์ผู้ลงมือทำการผ่าตัดในครั้งนี้คือผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า ศ.นพ.หนิวลี่จื้อได้วางแผนการผ่าตัดระวังอย่างมาก “ร่างกายผู้ป่วยทนการผ่าตัดเปิดหน้าท้องแผลใหญ่ทั่วไปไม่ได้ ต้องผ่าแบบแผลเล็ก และใช้เวลาในการผ่าตัดนานเกินไปไม่ได้เด็ดขาด” ศ.นพ. หนิวลี่จื้อกล่าว หลังจากได้วางแผนอย่างรอบคอบและเตรียมตัวอย่างดีของ Mahani ทีมแพทย์ได้ผ่าตัดให้ Mahani เมื่อวันที่ 27 กันยายน “ดิฉันหวังว่าตัวเองจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ฉันไม่อยากนั่งบนรถเข็นอีกต่อไป” เธอกล่าว

　　วันที่ 27 กันยายนพยาบาลได้ส่ง Mahani เข้าห้องผ่าตัดแต่เช้า เธอสวดมนต์อยู่ตลอดและภาวนาให้การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี เธอสวดมนต์คิดย้อนหลังและพูดว่า “ก่อนขึ้นเตียงผ่าตัด ดิฉันพูดกับคุณหมอว่า ถ้าหากดิฉันเกิดโชคร้ายหมดสติไประหว่างการผ่าตัด กรุณาอย่าช่วยชีวิตดิฉัน เพราะดิฉันไม่อยากให้คนในครอบครัวรอฉันอย่างทุกข์ใจทรมาน” เธอพูดด้วยน้ำตา

　　ภายใต้ยาสลบ ทีมแพทย์เริ่มทำการผ่าตัดมะเร็งลำไส้โดยการส่องกล้องให้เธออย่างระมัดระวัง บรรยากาศในห้องผ่าตัดค่องข้างตึงเครียด

　　ศ.นพ.หนิว ลี่จื้ออธิบายว่า “เนื่องจากผู้ป่วยเคยผ่าตัดมาแล้ว การผ่าตัดอีกครั้งอาจพบปัญหาลำไส้เกิดพังผืดระหว่างการผ่าตัด ผมเตรียมลอกพังผืดออกด้วยการส่องกล้องผ่าแบบแผลเล็ก วิธีนี้วางแผนให้เฉพาะผู้ป่วยรายนี้ ”เนื่องจากผู้ป่วยมีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างต่อการผ่าตัด ศ.นพ.หนิว ลี่จื้อต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างมากในการผ่าตัดทุกขั้นตอน โดยเฉพาะหลังการผ่าตัดต้องทำการฟอกไตอย่างต่อเนื่อง

　　วันที่ 27 กันยายนเวลา 11：00น. ญาติรออยู่หน้าห้องผ่าตัดด้วยความร้อนใจ สองชั่วโมงผ่านไป การผ่าตัดเสร็จสิ้นด้วยความราบรื่น แพทย์พยาบาลและญาติของ Mahani ต่างโล่งอกสบายใจ เมื่อยาสลบหมดฤทธิ์ Mahani ซาบซึ้งจนน้ำตาไหล ยกมือขึ้นพนมพึมพำว่า “ขอบคุณพระเจ้า ดิฉันรอดตายแล้ว” นี่เป็นบุญของเธอ ที่พระเจ้าอัลเลาะห์มอบให้

　　เบื้องหลังความสำเร็จของการผ่าตัด

　　ศ.นพ.หนิว ลี่จื้อแพทย์ผู้ผ่าตัดกล่าวว่า “การผ่าตัดครั้งนี้ แพทย์พยาบาลพยายามกันอย่างหนักทุกคน จุดที่ยากที่สุดระหว่างการผ่าตัดคือต้องให้สัญญาณชีพผู้ป่วยคงที่ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีขึ้นอยู่กับการตระเตรียมอย่างดี และการประสานงานอย่างดีของคณะแพทย์และมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่นผู้ป่วยต้องฟอกไตไปด้วยขณะผ่าตัด ซึ่งต้องอาศัยอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมทั้งการวางยาสลบ การหนุนช่วยทางอายุรกรรมและการฟอกไตเป็นต้นล้วนต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงมาประสานงานกัน

　　“การผ่าตัดสำเร็จในครั้งนี้ช่วยยกระดับเทคนิคของคณะแพทย์ผ่าตัดฟูด้า เราสามารถทำการผ่าตัดได้ในขณะที่ต่างประเทศเขายังทำไม่ได้ ทำให้เกิดกำลังใจมาก” ดร.นพ.หนิวลี่จื้อกล่าว

　　สองสัปดาห์ผ่านไป Mahani กับญาติเก็บของกลับบ้านที่เมืองซาบาห์ได้ แพทย์พยาบาลไปส่งเธอที่ห้องด้วยบรรยากาศอบอุ่น ประสบการณ์การเดินทางมาการดูแลที่กว่างโจวครั้งนี้ Mahani รู้สึกขอบคุณเป็นล้นพ้น แม้ว่าจะอยู่คนละประเทศ พูดคนละภาษาแต่จิตใจของเราได้ผูกพันเป็นหนึ่งเดียว “ฟูด้าทำให้ดิฉันเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของเทวทูตชุดขาว ท่านเหล่านี้มอบแสงแห่งพลังให้มนุษย์ชาติและแสงนี้ทำให้ฉันได้เกิดใหม่และมีพลัง” Mahani กล่าว