คุณอาผิง (นามสมมติ) เริ่มมีอาการเต้านมบวมและคลำพบก้อนเนื้อในปี พ.ศ. 2564 เมื่อตรวจที่โรงพยาบาลท้องถิ่นพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมชนิดลุกลามที่เต้านมด้านซ้าย ด้วยอาการทรุดหนัก เธอเคยสิ้นหวังถึงขั้นเตรียมจัดการเรื่องหลังความตาย

　　แต่หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า กว่างโจว ประเทศจีน ภายใต้แผนการดูแลแบบบูรณาการ(MDT) รวมถึงเคมีบำบัดที่เหมาะสม อาการของเธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ก้อนมะเร็งยุบลงและสภาพร่างกายฟื้นตัวจนสามารถเดินได้อย่างอิสระอีกครั้ง เธอกล่าวว่า “ที่นี่ไม่เพียงรักษาโรค แต่ยังคืนชีวิตใหม่ให้ฉัน”

　　แม้แพทย์ท้องถิ่นจะแนะนำให้คุณอาผิง เข้ารับการผ่าตัดรักษามะเร็งเต้านม แต่ด้วยความกลัว เธอจึงปฏิเสธและเลือกใช้วิธีรักษาแบบประคับประคองแทน อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปหนึ่งปี อาการของเธอกลับแย่ลงจนไม่สามารถเดินได้ตามปกติ ครอบครัวจึงโน้มน้าวให้เธอไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง และผลตรวจพบว่า นอกจากมีก้อนมะเร็งที่เต้านมซ้ายแล้ว ยังพบการกระจายของเซลล์มะเร็งไปยังหลายจุดทั่วร่างกาย

　　แพทย์วินิจฉัยว่าไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ และการรักษาใด ๆ อาจไม่เกิดประโยชน์ทางการแพทย์มากนัก แม้จะได้ยินคำวินิจฉัยเช่นนั้น ครอบครัวของคุณอาผิงก็ยังไม่ยอมแพ้ เนื่องจากเธอทุกข์ทรมานจากโรคมากจนแทบไม่สามารถนอนหลับหรือพลิกตัวได้ ครอบครัวเห็นสภาพดังกล่าวแล้วรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง จึงมุ่งหวังเพียงแค่จะหาทางบรรเทาความเจ็บปวดให้เธอได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

　　ด้วยแรงสนับสนุนจากครอบครัว คุณอาผิงได้เริ่มการรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัด (Hormone therapy) ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2565 ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ ก้อนมะเร็งมีขนาดเล็กลง อาการโดยรวมทรงตัว และเธอสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ในระดับหนึ่ง

　　อย่างไรก็ตาม ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 โรคกลับมาดำเนินรุนแรงขึ้นจากภาวะดื้อยาฮอร์โมน โดยมีอาการเริ่มต้นคือมีก้อนนูนเล็ก ๆ บนผิวหนังของเต้านม ร่วมกับอาการปวด แพทย์ท้องถิ่นแนะนำให้รับเคมีบำบัด (Chemotherapy) แต่คุณอาผิงปฏิเสธ เนื่องจากมีความกลัวเกี่ยวกับผลข้างเคียง เธอเลือกที่จะรักษาต่อด้วยฮอร์โมน แต่ครั้งนี้ไม่ได้ผล

　　โรคจึงลุกลามอย่างรวดเร็ว：

　　- ผิวหนังบริเวณเต้านมเต็มไปด้วยตุ่มและแผล มีของเหลวซึมออกและมีกลิ่น

　　- ร่างกายอ่อนแรงและน้ำหนักลดลงอย่างชัดเจน

　　- ไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้รถเข็นในการเคลื่อนไหว

　　- มีภาวะนอนไม่หลับจากความเจ็บปวด

　　ในช่วงเวลานั้น ครอบครัวของเธอเห็นถึงความทุกข์ทรมานและเสื่อมถอยของสภาพร่างกาย จนต้องเตรียมใจสำหรับการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้า

　　เมื่อครอบครัวของคุณอาผิงทราบว่า การให้เคมีบำบัดแบบเฉพาะจุด (Transcatheter Arterial Infusion Chemotherapy : TAI)  มีผลข้างเคียงน้อยกว่าการให้คีโมทั่วไป จึงตัดสินใจพาเธอเข้ารับการรักษาที่แผนกอายุรกรรมมะเร็ง 6 โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า เมืองกว่างโจว ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 สำหรับครอบครัว การรักษาครั้งนี้คือความหวังในการบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้ป่วย แต่สำหรับคุณอาผิงซึ่งไม่สามารถดูแลตนเองได้ กลับรู้สึกว่าตนเป็นภาระ และแม้จะยอมรักษาเพื่อให้ครอบครัวสบายใจ แต่ก็มีความรู้สึกว่า "หากต้องจากไป ก็อาจเป็นการหลุดพ้น"

　　หลังเข้ารับการตรวจซ้ำ แพทย์พบว่าเนื้องอกมีลักษณะไม่สม่ำเสมอ จึงทำการตัดชิ้นเนื้อใหม่และวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมชนิด Triple-Negative Breast Cancer ซึ่งมีความรุนแรงและรักษาได้ยาก คุณอาผิงจึงได้รับเคมีบำบัดแบบเฉพาะจุด โดยแม้การรักษาครั้งแรกจะมีผลข้างเคียงมาก แต่หลังจากนั้นอาการก็ดีขึ้นต่อเนื่อง ผิวหนังบริเวณเต้านมที่เคยแข็งและเป็นตุ่มเริ่มแห้ง ตกสะเก็ด และจางลงอย่างเห็นได้ชัด ผลการถ่ายภาพทางการแพทย์ยังแสดงให้เห็นว่าขนาดของก้อนมะเร็งลดลง ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกของการตอบสนองต่อการรักษา

　　เมื่อปลายเดือนมกราคม พ.ศ. 2568 คุณอาผิง  เริ่มมีอาการชาบริเวณปลายนิ้วมือซ้าย ร่วมกับปวดตามข้อเป็นพัก ๆ และรู้สึกอ่อนเพลียทั่วร่างกาย แพทย์จึงส่งตรวจพยาธิวิทยาเพิ่มเติม ผลการวินิจฉัยพบว่าเธอเป็นมะเร็งเต้านมชนิดเซลล์เล็ก (Small Cell Carcinoma of the Breast) ซึ่งจัดเป็นชนิดที่พบได้น้อย ในทันทีที่ได้รับผลตรวจ แพทย์ผู้ดูแลคือ ผู้อำนวยการหลี่ หงเหมย ได้ทำการปรับแผนการรักษาโดยเปลี่ยนเป็นการให้ยาเคมีบำบัดทางหลอดเลือดดำ (Intravenous Chemotherapy)

　　แม้ว่าคุณอาผิงและครอบครัวจะรู้สึกกังวลกับการเปลี่ยนแผนการรักษา แต่เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า และได้รับคำแนะนำจากทีมแพทย์พยาบาล จึงตัดสินใจลองรักษา ผลลัพธ์กลับเกินความคาดหมาย เคมีบำบัดไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอเคยหวาดกลัว หลังรับการรักษาหลายครั้ง อาการโดยรวมดีขึ้นชัดเจน จากที่เคยต้องนั่งรถเข็น คุณอาผิงสามารถเดินออกไปซื้อของ ทำอาหาร และเดินเที่ยวกับครอบครัวได้อีกครั้ง แม้แต่การไปเยี่ยมชมกวางโจวทาวเวอร์ก็กลายเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าคิดฝันเลยในช่วงที่อาการทรุดหนัก

　　“พวกเราครั้งหนึ่งเคยเตรียมใจไว้กับผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม และแน่นอนว่าเราชอบ ‘ความพลิกผัน’ แบบนี้！”  ปัจจุบันคุณอาผิง และครอบครัวเดินทางมารับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าอย่างมีความสุข ราวกับเป็นการมาพักผ่อน พวกเขารู้สึกซาบซึ้งต่อความเชี่ยวชาญและการดูแลเอาใจใส่ของทีมแพทย์และพยาบาล ที่ไม่เพียงให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพของการรักษา แต่ยังใส่ใจในสภาพจิตใจของผู้ป่วยอย่างลึกซึ้ง

　　นอกจากนี้ การปรับแผนการรักษาอย่างทันท่วงทีตามสภาพร่างกายและการตอบสนองของโรคแต่ละบุคคล ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คุณอาผิงรู้สึกพึงพอใจอย่างยิ่ง ปัจจุบันผลประเมินการตอบสนองต่อการรักษาของเธออยู่ในระดับ “PR” (Partial Response – ตอบสนองบางส่วน) และแผนการรักษาหลักในระยะต่อไปยังคงเน้นการให้เคมีบำบัดเพื่อควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง

　　ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างนี้

　　คีโมเฉพาะจุด | โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจว

　　https：//www.youtube.com/watch？v=yCDgBc0067M&t=23s

　　ปรึกษาโรคมะเร็ง

　　หากคุณต้องการทราบว่าผู้ป่วยเหมาะสำหรับการรักษาแบบบาดแผลเล็กหรือไม่ (การรักษาด้วยความเย็น  การรักษาด้วยมีดนาโน  การรักษาเฉพาะจุดแบบอุดตันเส้นเลือด ฯลฯ) และค่าใช้จ่ายในการรักษา  กรุณากรอกข้อมูลผู้ป่วย เพื่อรับคำแนะนำจากทีมแพทย์มะเร็งผู้เชี่ยวชาญของเรา

รับคำแนะนำจากแพทย์