คุณแม่ชาวคาซัคสถานเอาชนะมะเร็งโพรงจมูกหายากในกว่างโจว

　　“ดูสิ จมูกของฉันหายใจโล่งแล้ว！” เมก้า (นามสมมติ) กล่าวด้วยความตื่นเต้น พลางชี้ไปที่จมูกของตัวเองเพื่อแสดงให้ทีมแพทย์และพยาบาลเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดี เธอเป็นคุณแม่ชาวคาซัคสถานจากเอเชียกลาง รอยยิ้มของเธอเต็มไปด้วยความโล่งใจที่ไม่ได้สัมผัสมานาน

　　แต่หากย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เธอยังต้องทุกข์ทรมานกับอาการคัดจมูกอย่างรุนแรง เลือดกำเดาไหลซ้ำ ๆ และการสูญเสียการรับกลิ่น ซึ่งรบกวนชีวิตประจำวันของเธออย่างหนัก เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2025

　　ตอนนั้น เมก้า เริ่มมีอาการปวดบริเวณซีกซ้ายของใบหน้า รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมขณะกลืน และมีน้ำมูกปนเลือดเป็นครั้งคราว เธอเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลท้องถิ่น และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น “ก้อนเนื้อในไซนัสขากรรไกรซ้าย” หลังการผ่าตัดเอาก้อนออก ผลพยาธิวิทยาระบุว่าเป็น “เนื้องอกชนิดเทอราโทซาร์โคมา (teratocarcinosarcoma)”

　　อย่างไรก็ตาม เพียงไม่ถึงสองเดือนหลังผ่าตัด อาการปวดที่ใบหน้าซีกซ้ายกลับรุนแรงขึ้น อีกทั้งในโพรงจมูกยังมีเนื้อร้ายงอกใหม่ขึ้นมา แพทย์สงสัยอย่างมากว่าอาจเป็นมะเร็ง เมก้า จึงตัดสินใจบินไปรักษาต่อที่กรุงมอสโก การตรวจชิ้นเนื้อยืนยันในที่สุดว่าเป็นมะเร็ง Olfactory neuroblastoma หรือมะเร็งประสาทรับกลิ่น ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ยากมาก

　　แพทย์ที่มอสโกแนะนำให้เธอกลับประเทศเพื่อเข้ารับเคมีบำบัดต่อไป

　　มะเร็งประสาทรับกลิ่น (Olfactory Neuroblastoma)

　　มะเร็งประสาทรับกลิ่น (Olfactory Neuroblastoma)  เป็นมะเร็งชนิดร้ายแรงและพบได้น้อย เกิดจากเยื่อบุประสาทรับกลิ่นบริเวณด้านบนของจมูก อาการระยะแรกมักไม่ชัดเจน มักมีเพียงอาการคัดจมูกหรือเลือดกำเดาไหลเป็นหลัก เมื่อโรคลุกลาม อาจทำให้การรับกลิ่นลดลง ปวดศีรษะ หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวของลูกตาผิดปกติ

　　มะเร็งชนิดนี้ตอบสนองต่อการฉายรังสีได้ดี แต่ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำในตำแหน่งเดิมสูง ดังนั้นในการรักษาคลินิกมักใช้กลยุทธ์แบบผสมผสาน คือการผ่าตัดร่วมกับการฉายรังสี และในบางกรณีอาจต้องใช้เคมีบำบัดร่วมด้วย ผู้ป่วยบางรายก็สามารถได้รับประโยชน์จากการทำเคมีบำบัดหรือการฉายรังสีก่อนผ่าตัด

　　อาการจากก้อนมะเร็ง เช่น หายใจลำบาก เลือดกำเดาไหลไม่หยุด และปวดศีรษะอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมก้าทั้งกายและใจเหนื่อยล้า จากคำแนะนำของเพื่อน เธอจึงทราบว่าโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้า (Fuda Cancer Hospital) ในกว่างโจว ประเทศจีน มีประสบการณ์การรักษามะเร็งที่ซับซ้อนหลายเคสที่ประสบความสำเร็จ ด้วยความหวังครั้งสุดท้าย เมก้าจึงเดินทางพร้อมครอบครัวไปยังกว่างโจว และเข้าพักรักษาที่แผนกผู้ป่วยในของโรงพยาบาลฟูด้า

　　เมื่อเข้ารับการรักษา เมก้าพบว่าหลอดจมูกแทบถูกก้อนมะเร็งอุดตันทั้งหมด เนื้องอกลุกลามอย่างกว้างขวางไปยังโพรงหลังจมูก ซี่โครงตาข่ายด้านซ้าย และไซนัสขากรรไกรด้านบน รอบ ๆ บริเวณมีการทำลายกระดูกบางส่วน และในคอพบต่อมน้ำเหลืองหลายตำแหน่งที่มีการแพร่กระจาย นอกจากนี้ระดับ CEA (Carcinoembryonic Antigen) ก็สูงกว่าปกติอย่างมีนัยสำคัญ

　　เมื่อเผชิญกับความซับซ้อนของโรค แพทย์ผู้ดูแลหลัก จู๋ กุ่ยฉิง จึงจัดให้มีการประชุมปรึกษาข้ามสาขาวิชาชีพ (MDT) หลังจากการประเมินอย่างละเอียด ทีมแพทย์จึงวางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคลสำหรับเมก้า ได้แก่

　　1.   เคมีบำบัดเฉพาะจุด (TAI - Transarterial Infusion Chemotherapy) ฉีดยาเข้าเส้นเลือดแดงโดยตรงสู้ก่อนมะเร็ง และ การอุดหลอดเลือดไปหล่อเลี้ยงมะเร็ง (TAE - Transarterial Embolization) เพื่อควบคุมความรุนแรงของก้อนมะเร็ง ลดเลือดออก และเพิ่มปริมาณยาเคมีบำบัดสำหรับการรักษารังสีในขั้นต่อไป

　　2.   ใช้ ยาเสริมภูมิคุ้มกันบัด ร่วมในระหว่างการรักษา

　　หลังจากรอบแรกของการรักษา อาการคัดจมูกและเลือดกำเดาของเมก้าก็คลายลงอย่างชัดเจน ความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมขณะกลืนก็บรรเทาลงอย่างมาก และหลังจากจบรอบที่สอง เธอตื่นเต้นเมื่อพบว่าสามารถหายใจทางจมูกได้ตามปกติ การรับกลิ่นก็กลับคืนสู่ปกติ

　　การตรวจด้วยภาพถ่ายทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่า ก้อนมะเร็งในโพรงจมูกและไซนัสหดตัวอย่างชัดเจน และค่า Tumor Marker ค่อย ๆ กลับสู่ระดับที่เสถียร ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่าแผนการรักษาปัจจุบันได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม

△ ก่อนการรักษา

△ หลังจากการรักษาสองรอบ

　　เมื่ออาการของโรคเริ่มคงที่ขึ้นทุกวัน สภาพร่างกายโดยรวมของเมก้าก็พัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากทีมแพทย์แผนกผู้ป่วยในแผนกที่สามร่วมกับแผนกรังสีรักษาวิเคราะห์ผลภาพถ่ายทางการแพทย์อย่างละเอียด เมก้าตัดสินใจครั้งสำคัญว่า จะไม่กลับประเทศเพื่อรับการรักษาฟรี แต่จะ อยู่ที่โรงพยาบาลฟูด้าต่อเพื่อทำการรักษาด้วยการฉายแสงแบบพิเศษ  ระหว่างการรักษา ทีมแพทย์ได้ใช้ ยาเคมีบำบัด Cisplatin ร่วมกับการฉายรังสี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาจากผลการฉายรังสี ลดขนาดบริเวณเป้าหมาย และลดผลข้างเคียงจากรังสี

△ ฝังพอร์ตที่แขนเพื่อเป็นเส้นทางให้น้ำเกลือ ช่วยให้การให้เคมีบำบัดและการเสริมโภชนาการ

　　ในระยะต่อไปปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น

　　“พวกคุณช่วยฉันไว้มากจริง ๆ！” เมก้ากล่าวด้วยความซาบซึ้งต่อการที่อาการของเธอดีขึ้น ซึ่งเธอและครอบครัวไม่รู้สึกแปลกใจนัก เพราะประทับใจกับทีมแพทย์และพยาบาลของที่นี่เป็นอย่างยิ่ง “บุคลากรทางการแพทย์ที่นี่เก่งมาก ทีมล่ามก็เป็นมืออาชีพ และเทคโนโลยีการรักษาก็น่าทึ่งจริง ๆ”

　　สิ่งที่ทำให้เมก้าประทับใจยิ่งกว่านั้น คือความใส่ใจของ คุณหลี่ หลิงซี ล่ามผู้ดูแลการสื่อสาร ที่ตั้งใจมอบภาพตัดกระดาษสีแดงแบบจีนให้เธอหนึ่งภาพ โดยมีความหมายถึง “ความสุขและความมั่งคั่ง (福禄)” สัญลักษณ์แห่งสุขภาพและอายุยืนยาวนี้ ทำให้เมก้ารู้สึกถึงความอบอุ่นราวกับได้อยู่บ้าน แม้จะกำลังรักษาอยู่ไกลต่างแดนก็ตาม

　　ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างนี้

　　คีโมแบบใหม่ คีโมเฉพาะจุด ผลค้างเคียงต่ำ

　　https：//www.youtube.com/watch？v=KGq4FwVhVQY

　　เจาะลึก！ "คีโมเฉพาะจุด" ทางเลือกใหม่ของผู้ป่วยมะเร็ง

　　https：//www.youtube.com/watch？v=Ya_u2m8Zzyc&t=16s

　　ปรึกษาโรคมะเร็ง

　　หากคุณต้องการทราบว่าผู้ป่วยเหมาะสำหรับการรักษาแบบบาดแผลเล็กหรือไม่ (การรักษาด้วยความเย็น  การรักษาด้วยมีดนาโน  การรักษาเฉพาะจุดแบบอุดตันเส้นเลือด ฯลฯ) และค่าใช้จ่ายในการรักษา  กรุณากรอกข้อมูลผู้ป่วย เพื่อรับคำแนะนำจากทีมแพทย์มะเร็งผู้เชี่ยวชาญของเรา

รับคำแนะนำจากแพทย์