• ปรึกษาหมอมะเร็งฟรี
  • วิธีการรักษาแบบใหม่
  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • เรื่องราวของผู้ป่วย
หน้าหลัก / เรื่องราวของผู้ป่วย

ผู้ได้รับรางวัล “The Rank Prize ”(หนึ่งในรางวัลวิทยาศาสตร์สูงสุดของประเทศอังกฤษ) มองว่าสามารถฝากชีวิตกับฟูด้าได้

มะเร็งท่อน้ำดี

Author:NoneFrom:FUDA

  เมื่อวันที่ 24 เดือนมีนาคมปี2559 หลังจากนางลู่ หมิงหญิงได้รับการดูแลที่โรงพยาบาลฟูด้ามาแล้ว 2 เดือน เธอก็ได้รับรางวัล “The Rank Prize ” นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง

  ก่อนที่เธอจะออกจากโรงพยาบาลหนึ่งวัน เธอพันผ้าคลุมไหล่สีแดงไปล่ำลาแพทย์พยาบาลที่เคยดูแลเธอเป็นอย่างดีและขอบคุณแพทย์ของฟูด้าสามารถดูแลดิฉันได้

  

news-15-6-59-2-1.png

ผ.อ.ใหญ่สวี เค่อเฉิงกับนางลู่ หมิงหญิง

  

news-15-6-59-2-2.png

นางลู่หมิงหญิงถ่ายรูปกับพยาบาล


  ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์ เราได้เยี่ยมนางลู่ หมิงหญิง วันนั้น เธอพันผ้าพันไหล่ดีแดงเช่น กัน “ผ้านี้เพื่อนดิฉันเป็นคนซื้ให้ สีแดงทำให้ดิฉันดูสดใสมากขึ้น” ซึ่งตอนนั้นเธอพึ่งหยุดทานยาคีโม และรู้สึกสบายใจมาก เธอจึงได้เล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการศึกษาที่ประเทศอังกฤษ รางวัล “The Rank Prize ” และการต่อสู้กับโรคมะเร็งด้วยจิตสงบ

  อิทธิพลจากพ่อ

  ปี2497 ลู่ หมิงหญิงได้กำเนิดในตระกูลที่เรียนเก่ง พ่อของเธอชื่อลู่ จงจวู้ เป็นผู้สร้าง วิชาอุปกรณ์ไฟฟ้าสูญญากาศ ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับหลอดไมโครเวฟมาเป็นระยะเวลา นาน ได้แต่งตำราและวัสดุการสอนด้านการศึกษาไฟฟ้าไมโครเวฟชุดแรกของประเทศ จีน ลู่หมิงหญิงกล่าวว่าอิทธิพลจากพ่อ ทำให้ดิฉันชอบคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ และสนใจด้านการศึกษาไฟฟ้าพลังแสงเป็นอย่างมากมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เมื่อถึงมัธยมต้นเจอการปฏิวัติทางวัฒนธรรม เลยต้องหยุดการเรียนไปก่อน หลังจาก 2 ปีผ่านไป เขาเรียนมัธยมที่โรงเรียนใกล้ๆแห่งหนึ่ง เมื่อปี2513 ลู่ หมิงหญิงอายุได้ 16 ปีถูกใหไปทำงานที่โรงงานเล็กๆแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ทำงานที่โรงงานแห่งนี้มาเป็นระยะเวลา 7 ปี

  ลู่ หมิงฉี พี่สาวของลู่ หมิงหญิงว่า ก่อนที่รัฐบาลกลับมาใช้นโยบายการสอบ คัดเลือกเข้าวิทยาลัยเหมือนเดิม น้องสาวก็เตรียมเรื่องการเรียนมาตลอด กลางวันทำงานปกติ หลังจากเลิกงานก็ได้ไปเรียนหนังสือภาคค่ำ ด้วยความยืนหยัดตั้งใจเรียน ลู่ หมิงหญิงจึงได้สอบเข้าสถาบันวิศวกรรมหนานจิงสาขาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์

  

news-15-6-59-2-3.png

ลู่หมิงหญิง(ขวา)กับพี่สาวลู่ หมิงฉี


  ตอนเธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัยได้พบกับคนรักที่เป็นเพื่อนนักศึกษาชั้นเดียวกัน ชื่อหวัง ก๋วยยู่ว ในความทรงจำของลู่ หมิงหญิง เธอทั้งสองส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในห้องทดลอง ไม่ค่อยมีเวลาเที่ยวและดูแลกัน หลังจากเรียบจบปริญญาตรี ลู่หมิงหญิงเรียนต่อปริญญาโทในมหาวิทยาลัยแห่งเดิม ส่วนหวัง ก๋วยยู่วสอบได้ไปเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยชิงห้ว หลังจากจบปริญญาโท ทั้งสองก็ได้แต่งงานกัน เมื่อปี2527 เธอกับสามีได้มีลูกที่น่ารัก จากนั้น ลู่ หมิงหญิงก็ได้เป็นอาจารย์ในมหาวิทลัยส่วนสามีเธอก็กลับมาเมืองหนานจิงเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทลัยแห่งเดียวกับเธอ

  ในช่วงปลายศตวรรษ1980ที่ กล้องดิจิตอลสมัยนั้นมีราคาสูงมาก เครื่องหนึ่งหลายพันดอลล่า เพราะสมัยนั้น ค่าใช้จ่ายในการทำเซ็นเซอร์รับภาพสูงมาก ประเทศญี่ปุ่นและอเมริกาใช้เวลายาวนานก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

  ในปี2530และปี2532 หวัง กั๋วยวู่ ลู่หมิงหญิงทั้งสองได้ร่วมกับทีมงานที่ทำการทดลองในมหาวิทยาลัย ในทีมงานมีทั้งหมด4คนคือศาตราจารย์ ของมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ2 คนและ หวัง กั๋วยวู่ ลู่หมิงหญิง จุดประสงค์ของการทดลองคือเจาะจงในการหาเซ็นเซอร์รับภาพแบบใหม่ พวกเขาเสนอความคิดออกมาว่านำวงจรรวมเซมิคอนดัคเตอร์(CMOS)มาใช้ในเซ็นเซอร์รับภาพทำแบบนี้จะสามารถลดต้นทุนเซ็นเซอร์รับภาพให้น้อยลงได้

  หลังจากยืนหยัดพยายามมาหลายปี พวกเขาสามารถนำวงจรรวมเซมิคอนดัคเตอร์(CMOS)มาใช้ในเซ็นเซอร์รับภาพได้สำเร็จ ซึ่งนำผลดีอย่างมากและเห็นชัดด้วยการปฏิวัติของเทคโนโลยีนี้ ต้นทุนของเซ็นเซอร์รับภาพลดลง1/3และสามารถผลิตได้เป็นจำนวนมากมายอีกด้วยซึ่งทำให้ราคาของกล้องดิจิตอลลดลงจากหลายพันดอลล่าเป็นประมาณ10 ดอลล่า ตั้งเแต่ปี2545เป็นต้นมา เทคโนโลยีนี้เริ่มถูกนำมาใช้ในกล้องของโนเกียต่อมาก็เริ่มใช้ในเครื่องโทรศัพท์อย่างมากมายทำให้เครื่องโทรศัพท์ถ่ายรูปได้ ซึ่งทำให้เครื่องโทรศัพท์ที่ถ่ายรูปได้ที่เคยเป็นของที่ฟุ่มเฟือยกลายเป็นของที่คนทั่วไปใช้กันได้ ปัจจุบันชิปกล้องโทรศัพท์ที่ถูกผลิตออกมา 5 ล้านกว่าชิ้นต่อวันทั่วโลกล้วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีของเราทั้งสิ้น ลู่ หมิงหญิงพูดอย่างภูมิใจ

  ได้รับรางวัลโดยคาดไม่ถึง

  เทคโนโลยีการนำวงจรรวมเซมิคอนดัคเตอร์(CMOS)มาใช้ในเซ็นเซอร์รับภาพทำให้เกิดการเปลี่ยนยุคในอุตสาหกรรมกล้องดิจิตอลดังนั้นลู่ หมิงหญิงและนักวิจัยอีก3ท่านจึงได้รับรางวัล “The Rank Prize ”ในปี2551

  รางวัล “The Rank Prize ”ของประเทศอังกฤษตั้งขึ้นมาเมื่อปี2515 เป็นหนึ่งในรางวัลวิทยาศาสตร์ชั้นสูงสุดของประเทศอังกฤษรางวัลที่ถูกมอบให้นักวิจัยทั่วโลกที่สร้างคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ในด้านวิทยาอปโตอิเล็กทรอนิกส์และโภชนาการ ได้รับการยกย่องให้เป็นรางวัลโนเบลด้านวิทยาอปโตอิเล็กทรอนิกส์และโภชนาการ จนถึงปัจจุบันนี้ชาวจีนมีเพียงไม่กี่คนได้รับรางวัลนี้ เช่น คุณกาวคุน บิดาแห่งเส้นใยแก้วนำแสง คุณหยวน หลงผิง บิดาแห่งข้าวลูกผสม

  “น่าแปลกใจมาก”การที่ได้รับรางวัลครั้งนี้ ลู่ หมิงหญิงแสดงความรู้สึกคือ“คิดไม่ถึงเลย” เรื่องเป็นอย่างนี้ เมื่อเดือนมีนาคมปี2550 ลู่ หมิงหญิงได้รับจดหมายฉบับหนึ่งสอบถามความยินยอมเข้าร่วมการเลือก รางวัล “The Rank Prize ” “การวิจัยได้ผลเป็นเรื่อง 10 กว่าปีที่แล้ว ตัวเราเองก็เกือบจะจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ” สามีภรรยาคู่นี้คิดว่าอาจโดยแก้ลงแน่ เลยไม่ได้สนใจเรื่องนี้ อีกไม่นาน ลู่ หมิงหญิงได้รับจดหมายจากคนที่เคยเป็นอาจารย์ ถามเขาว่าเคยได้รับจดหมายขอเชิญเข้าร่วมการประเมินรางวัล “The Rank Prize ”หรือไม่ ขณะนั้น ลู่ หมิงหญิงจึงเชื่อว่าข้อความในจดหมายนั้นเป็นเรื่องจริง

  “นี่ทำให้พวกเราคิดไม่ถึงและตื่นเต้นจริง” ลู่ หมิงหญิงว่า เพื่อทำการวิจัยเทคโนโลยีนี้ พวกเขาได้ทุ่มเทเวลาและกำลังอย่างมากมาย 10กว่าปีผ่านไปสุดท้ายก็เป็นที่ยอมรับซึ่งทำให้พวกเขาตื่นเต้นมากๆ

  การต่อสู้กับโรคมะเร็งแบบใจเย็น

  เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ลู่ หมิงหญิงเริ่มรู้สึกไม่สบาย ปวดท้องน้อยประจำ เขาคิดว่าน่าจะเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะและได้ทานยาปฏิชีวนะ แต่อาการไม่ดีขึ้น จนถึงเดือนธันวาคม พอดีเขากลับมาประชุมทางวิชาการภายในประเทศ สามีเขาให้เขาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลอย่างละเอีอด ผลตรวจอัลตร้าซาวด์ออกมาว่าที่ตับมีเนื้องอก 7×8cm แพทย์แจ้งว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แนะนำตรวจ CTสแกน การตรวจเพิ่มเติมพบว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำดี ไม่เพียงแต่ที่ตับเท่านั้น ที่กระดูก ต่อมน้ำเหลือง และช่องท้องก็มีเชื้อมะเร็งกระจาย

  เธอเพิ่งเคยได้ยินมะเร็งท่อน้ำดีเป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่ามันคืออะไร หลังจากเช็คทางเน็ตแล้ว พบว่ามะเร็งท่อน้ำดีดูแลค่อนข้างยาก ลู่ หมิงหญิงไม่ได้เศร้าใจและหมดหวังเหมือนผู้ป่วยคนอื่นๆ เขาก็ไม่เคยร้องให้น้ำตาไหลแม้แต่หยดเดียว เวลาเล่าเรื่องป่วยของตัวเองเขาดูเฉยๆเหมือนกำลังเล่าเรื่องของคนอื่นเคยมีแพทย์แนะนำเขารับการดูแลด้วยฉายแสงและคีโมก่อน แต่เขาปฏิเสธการรับการดูแล แล้วค้าหาวิธีการดูแลแบบใหม่ที่ทรมานน้อยกว่าจากทางเน็ต วันหนึง เห็นข่าวจากทางเน็ตว่ามะเร็งท่อน้ำดีผ่าตัดด้วยมีนาโนได้ “พอเห็นข่าวนี้ดิฉันรู้สึกมีความหวังนิดหนึ่ง ”เขาเลือกกลับไปรับการดูแลที่ประเทศอังกฤษและขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญที่ดังด้านการรัษาสลายด้วยมีดนาโนของสถาบันแพทศาตร์ของมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจประเทศอังกฤษ แต่ปรากฏว่าทำการผ่าตัดด้วยมีดนาโนที่ประเทศอังกฤษต้องรอคิวเป็นเวลานาน เนื่องจากเป็นห่วงว่าอาการป่วยแย่ลง เขาเลยเลือกกลับมารับการดูแลทีประเทศจีน

  การรู้จักฟูด้าเพราะมีดนาโน

  ลู่ หมิงหญิงมั่นใจกับเทคโนโลยีมีดนาโน เขาหาข้อมูลด้วยคำว่า“มีดนาโน”จากทางเน็ตตลอดเวลา จนสุดท้ายเจอโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจว รู้ว่าตอนนั้นโรงพยาบาลฟูด้าได้ทำการผ่าตัดด้วยมีดนาโนให้ผู้ป่วยมาแล้ว70 กว่าราย แพทย์ของโรงพยาบาลมีความชำนาญกับเทคโนโลยีนี้เป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจเดินทางมารับการดูแลที่โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้ากว่างโจว

  พี่สาวของลู่ หมิงหญิงบอกว่าว่า ที่จริงก่อนมาโรงพยาบาลฟูด้า ดิฉันเคยนำเอกสารของน้องสาวไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลใหญ่ในมณฑลซีอานแห่งหนึ่ง เพราะเคยเห็นตัวอย่างสำเร็จจากกาผ่าตัดด้วยมีดนาโนของเขาที่ลงในหนังสือพิมพ์ แต่ผู้เชี่ยวชาญที่โน่นบอกว่าเนื้องอกใหญ่เกิน รับการดูแลไม่ได้

  เมื่อวันที่ 31 เดือนมกราคม2559 ลู่ หมิงหญิงเข้าพักรับการดูแลที่โรงพยาบาลฟูด้า เนื่องจากอาการป่วยแย่เร็วมาก มีน้ำในช่องท้อง ไข้สูง ตอนเข้าโรงพยาบาลเขาเพลียมากจนเดินไม่ได้ “ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาถึงโรงพยาบาล ดิฉันก็รู้สึกว่าโรงพยาบาลฟูด้าเป็นโรงพยาบาลฟูด้าที่เหมาะกับดิฉันมาก จากผู้อำนวยการ หมอและพยาบาลทุกคนอัธยาศัยดีมาก เช้าวันที่สอง ผู้อำนวนการใหญ่สวี เค่อเฉิง ผู้อำนวนการหนิว ลิ้จื้อพาผู้เชี่ยวชาญหลายคนมาเยี่ยมดิฉันที่ห้อง ให้กำลังใจดิฉันเป็นอย่างมาก ดิฉันสบายใจขึ้นอย่างรวจเร็วและเชื่อมั่นในใจว่าสามารถฝากชีวิตไว้กับที่นี่ได้ ถ้าฟูด้าดูแลดิฉันไม่ได้ คงไม่มีที่อื่นดูแลดิฉันได้อีกแล้ว ”

  หลังจากนั้น ลู่ หมิงหญิงรับการผ่าตัดด้วยแสงจำเพาะ มีดนาโน แร่ไอโอดินเป็นต้น เขาว่า“ แพทย์สามารถดูแลดิฉันได้”

  หลังจากทำการผ่าตัดไป 2 เดือน เขามั่นใจกับโรงพยาบาลฟูด้ามากขึ้น “เพราะอย่างแรกแพทย์ที่นี่เทคนิคสูง อธิบายให้ดิฉันได้ชัดเจนมาก ดิฉันรู้อย่างชัดเจนว่าขั้นตอนต่อไปควรจะทำอะไร แล้วจะเกิดผลอะไร อย่างที่สองทางโรงพยาบาลใช้เทคโนโลยีการดูแลผู้ป่วยแบบ Green Treatment ดูแลแบบไม่ทรมานมากนักนี่ก็คือการดูแลที่ดิฉันต้องการ และอย่างสุดท้ายแพทย์ พยาบาลจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดยิ้มแย้มตลอดทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอุ่นใจเสมอ 2เดือนนี้ดิฉันรู้สึกสบายใจมาก”

  ดิฉันมีอาจารย์คนหนึ่งเสียชีวิติเพราะมะเร็งสมอง ดิฉันคิดว่าหากตอนนั้นเขาได้ทำการรับการดูแลที่โรงพยาบาลฟูด้าก็ดีแล้ว นี่ก็คือเหตุผลที่ดิฉันอยากแบ่งบันประสบการณ์รับการดูแลที่โรงพยาบาลฟูด้า อยากให้ผู้ป่วยท่านอื่นได้รู้วิธีการรับการดูแลมากขึ้น


วิธีการรักษา
  • การรักษาด้วยมีดนาโน (IRE)...

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง
  • ศ.นพ.สวีเค่อเฉิง...

การรักษาที่กำลังนิย
  • การรักษาด้วยการให้ยาผ่านทางเส้นเลือด

  • การรักษาด้วยความเย็น (Cryosurgical Ablation, CSA)

  • การรักษาด้วยมีดนาโน (IRE)

  • การรักษาด้วยคลื่นไมโครเวฟ

  • การรักษาด้วยแสงจำเพาะ (Photodynamic Therapy, PDT)

  • การรักษาด้วยคีโมร้อนบริเวณช่องท้อง

  • การรักษาโดยสร้างภูมิคุ้มกันแบบองค์รวม

  • โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
  • โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
  • ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
  • ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ