ตามหาลูกชาย แม่เป็นมะเร็งที่โชคร้าย ฟูด้ายื่นมือช่วยเหลือดูแล
มะเร็งปอด
Author:FUDA
From:ยาง ซู ห้วยวัย 56 ปีเป็นคนมณฑลเจ้อเจียง วันที่ 25 เดือนมิถุนายน ปี 1991 เธอมีบุตรชายคนหนึงอายุ 4 ขวบชื่อฉวี เจี้ยน เฟิง ได้หายตัวไปที่ใต้อาคารแห่งหนึ่งในทางตอนใต้ของกว่างโจว เพื่อที่จะหาลูกชายที่หายไป เธอเดินหาเป็นเวลายี่สิบกว่าปี ไม่ว่าเธอจะเจอกับความผิดหวัง เจอกับการหย่าร้าง โดนหลอก เธอก็ไม่เคยท้อ ตอนแรกเธอคิดว่าตัวเองสามารถอดทนได้ทั้งชีวิต ตามหาไม่หยุด แต่ว่า โชคไม่ดีนัก สวรรค์เหลือเวลาให้เธอไม่มากแล้ว
ปลายปี 2014 ยาง ซู ห้วยตรวจเจอเป็นมะเร็งปอดระยะกลาง โรคภัยไข้เจ็บไม่ทำให้เธอเลิกตามหาลูกชายเธอ อีกทั้งยิ่งทำให้เธอมุ่งมั่นตามหาลูกชาย ไม่ว่าส่วนไหนของประเทศ เพียงแค่มีเบาะแส เธอก็จะพกยาไปตามหา เธอกำลังแข่งกับความตาย ก่อนสิ้นลมเธออยากจะหาลูกชายให้เจอ
แต่โชคชะตากรรมช่างโหดร้าย การตามหาลูกชายทำให้เธอเหน็ดเหนื่อยและทำให้อาการเธอยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ อาทิตย์ที่แล้ว ยาง ซุ ห้วย ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย และมีการกระจายไปที่กระดูก ก่อนที่ชีวิตจะล้มลง ความหวังที่ใหญ่ที่สุดของเธอก็ยังอยากได้ยินเสียงลูกชายเรียกว่า “แม่” อีกสักครั้ง
เรื่องราวที่แสนเศร้าของยาง ซู ห้วย ได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆและได้ตีพิมพ์เรื่องราวของเธอในหนังสือพิมรายวันของสื่อต่างๆในกว่างโจว ทำให้เป็นที่สนใจของสังคม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฟูด้ากว่างโจว ศจ.นพ.สีว เค่อ เฉิน ได้อ่านเรื่องราวของเธอในหนังสือพิมพ์ ได้ตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือเธอ ทำการดูแลเธออย่างที่สุด โรงพยาบาลได้นำเงินจำนวนห้าหมื่นหยวนจาก “กองทุนเป่ออ้ายฟูด้า” ช่วยเหลือยาง ซู ห้วย ให้เธอรับการดูแลที่โรงพยาบาลอย่างสบายใจ
ศจ.นพ.สีว เค่อ เฉินได้ทำการตรวจให้แก่ยาง ซู ห้วย
ช่วงบ่ายของวันที่ 6 เมษายน ยาง ซู ห้วยมาถึงโรงพยาบาลดูแลมะเร็งฟูด้า ทำการดูแล ศจ.นพ.สีว เค่อ เฉินเข้าเยี่ยมเธอในห้องผู้ป่วย และได้ให้กำลังใจเธอโดยเล่าประสบการณ์ของตนเองให้เธอฟัง บอกกับเธอ ผมเป็นมะเร็งตับเมื่อสิบปีก่อน หลังผ่านการรับการดูแลตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่อย่างดี ผมทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกัน ตอนที่พูดคุยถึงเรื่องทำการดูแลผู้ป่วย ยาง ซู ห้วย ได้พูดคำหนึงว่า เธอไม่อยากรับการดูแลด้วยคีโม ทำให้รู้ว่าก่อนหน้านี้เธอรับการดูแลด้วยการกินยาสมุนไพรจีนมาโดยตลอด เธอกลัวว่าการรับการดูแลด้วยคีโมจะทำให้เธอมีผลข้างเคียง ผมร่วง หน้าตาเปลี่ยนไป เธอพูดอีกว่า“ฉันกลัวว่าลูกจะจำฉันไม่ได้”
ทั้งนี้ ศจ.นพ.สีว เค่อ เฉินได้เรียกผู้เชี่ยวชาญฉะเพาะทางของโรงพยาบาลวินิจฉัยอาการของเธอ และหารือวิธีการดูแล จี้ด้วยความเย็น คีโมฉะเพาะทางเป็นต้นหลายวิธี หาวิธีที่ทำให้เธอทรมานน้อยที่สุด ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ถึงแม้ยาง ซู ห้วยจะเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย อาการค่อยข้างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งก้อนมะเร็งปอดข้างขวา บวกกับก้อนมะเร็งได้ทับเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดอุดตัน แต่ว่าก่อนหน้านี้ทางโรงพยาบาลก็ได้เคยทำการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งที่คล้ายกับของเธอ หลังการดูแล ปัจจุบันผู้ป่วยรายนั้นมีชีวิตอยู่รอดมาแล้วประมาณสิบปี
ศจ.นพ.สีว เค่อ เฉินกล่าวว่า ดูจากอาการเธอตอนนี้ การดูแลไม่สามารถกำจัดมะเร็งได้ทั้งหมด แต่สามารถคิดหาวิธีควบคุมการกระจายของมะเร็งได้ ยืดเวลาให้ยาวที่สุด
ยาง ซู ห้วยได้จับมือศจ.นพ.สีว เค่อ เฉินแน่นๆ ขอบคุณโรงพยาบาลให้ความรักและช่วยเหลือ กับเธอ หนังสือพิมพ์รายวัน หนังสือพิมพ์หน่านฟางตูซื่อ ช่องโทรทัศน์กว่างโจวหน่านฟาง และนักข่าวจากสำนักต่างๆได้สัมภาษณ์ความรักที่ยิ่งใหญ่ของโรงพยาบาลฟูด้ากว่างโจว
ศจ.นพ.สีว เค่อ ขณะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวสื่อต่างๆ
-
ศ.นพ.สวีเค่อเฉิง...
การรักษาด้วยการให้ยาผ่านทางเส้นเลือด
การรักษาด้วยความเย็น (Cryosurgical Ablation, CSA)
การรักษาด้วยมีดนาโน (IRE)
การรักษาด้วยคลื่นไมโครเวฟ
การรักษาด้วยแสงจำเพาะ (Photodynamic Therapy, PDT)
การรักษาด้วยคีโมร้อนบริเวณช่องท้อง
การรักษาโดยสร้างภูมิคุ้มกันแบบองค์รวม
-
โรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทางแห่งชาติ
-
โรงพยาบาลมะเร็งที่ได้รับรองมาตรฐาน JCI ระดับนานาชาติ
-
ศูนย์ฝึกอบรมการรักษาด้วยความเย็นแห่งเอเชีย
-
ศูนย์ชีวการแพทย์กว่างโจวสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและเวชศาสตร์ปริวรรตสถาบันสุขภาพ