มะเร็งตับรักษาได้ไหม

มะเร็งตับเป็นหนึ่งในมะเร็งที่มีอัตราการเกิดและอัตราการเสียชีวิตสูง เนื่องจากในระยะเริ่มต้นของโรคไม่มีอาการบ่งชี้ชัดเจน ผู้ป่วยตรวจพบมะเร็งตับนั้นส่วนใหญ่เป็นระยะขั้นกลางและระยะสุดท้ายแล้ว หลังจากตรวจพบว่าตนเองเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าตนเองนั้น เดินทางมาถึงจุดสุดท้ายของชีวิต ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าตนเองเหลือเวลาบนโลกนี้อีกไม่นานมากนักจนทำให้หมดหวังกับชีวิตแต่ปัจจุบันนี้เทคนิคการแพทย์รักษาโรคมะเร็งนั้นก้าวหน้ามากขึ้น มะเร็งตับรักษาไม่ได้จริงหรือไม่?

ตัวอย่างผู้ป่วยมะเร็งตับของฟูด้า หลังทำการรักษารอดชีวิตมาได้ 16 ปีด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี

ถานโหย่วห่าว ผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้ายชาวจีน หลังทำการรักษารอดชีวิตมาได้ 16 ปี

ในเดือนกันยายนปี 2002 เขาเข้ามารับการตรวจที่โรงพยาบาลโรคมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนาน เขามีเนื้องอกขนาดใหญ่มาก และถูกกดทับไปยังอวัยวะอื่น ๆ เช่นช่องท้อง จึงทำให้มีอาการแน่นท้องด้านขวาอย่างรุนแรง 

ศ.นพ.สวีเค่อเฉิงยินดีสู้ถึงที่สุดเพื่อผู้ป่วยรายนี้โดยรักษาด้วยการอุดเส้นเลือดที่ตับให้คนไข้สองครั้ง อีกทั้งร่วมมือกับศ.นพ.หนิวลี่จื้อใช้อัลตราเซาด์นำทางทำการสลายก้อนเนื้องอกด้วยความเย็นให้คุณถาน หลังการรักษาตรวจ CT scan ปรากฎว่าเนื้องอกเล็กลงอย่างปาฏิหาริย์ หลังจากนั้นได้ทำการรักษาด้วยอุดเส้นเลือดอีก 3 ครั้ง เนื้องอกจากขนาด 12cm เล็กลงถึง 7cm น้ำในช่องท้องก็ลดหายไป คิดไม่ถึงว่าคนไข้ที่โรงพยาบาลหลายแห่งปฏิเสธไม่รับการรักษากลับสามารถรอดชีวิตกลับมาได้ คุณถานเริ่มมีความมั่นใจขึ้นมา หลังการรักษาสำเร็จผ่านไป 5 ปี คุณถานกลับมาตรวจติดตามอาการกับโรงพยาบาลทุกปี 5 ปีแรกผ่านไป เขาไม่มีมะเร็งกลับมาเป็นซ้ำ 5 ปีครั้งที่ 2 กับครั้งที่ 3 ผ่านไปได้ด้วยดี จนปัจจุบัน 16 ปี คุณถานยังแข็งแรงอยู่ คลิกเพื่ออ่านเรื่องราวของถานโหย่วห่าวเพิ่มเติม

การรักษามะเร็ง 21 วิธี รักษาเฉพาะทางได้ครบด้าน

วิธีการรักษาทั่วไป

ผ่าตัด ฉายรังสี คีโม รักษาด้วยยามุ่งเป้า สลายด้วยคลื่นความถี่สูง สลายด้วยสารเคมี การใส่ขดลวดตาข่ายครอบรังสี การใช้ยาสมุนไพรจีน การใช้ยาสมุนไพรจีนสมัยใหม่ การฉีดแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ การใช้ยาระงับเส้นเลือดเกิดใหม่

วิธีการรักษาพิเศษ

การสลายด้วยมีดนาโน การสลายด้วยความเย็น การรักษาอุดเส้นเลือดและคีโมเฉพาะจุด การให้คีโมเฉพาะจุดแบบ hepasphere การรักษาด้วยแสงจำเพาะ การรักษาสร้างภูมิคุ้มกันแบบองค์รวม การสลายด้วยคลื่นไมโครเวฟ การรักษาด้วยความร้อนของคลื่นไมโครเวฟ การรักษาสร้างภูมิคุ้มกันด้วยโอโซน

พวกเขาได้รับชีวิตใหม่จากที่นี่

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา
  • ศ.นพ.หนิวลี่จื้อ
    • หัวหน้าแพทย์
    • รองผู้อำนวยการของโรงพยาบาล
    • ประธานโรงพยาบาลฟูด้า
    นัดหมาย
    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
  • ศ.นพ.เจิงจงยวน หัวหน้าแพทย์
    • หัวหน้าแพทย์
    • ศาสตราจารย์
    • ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับทุนพิเศษจากสภาแห่งรัฐ
    นัดหมาย
    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
  • รอง ศ.นพ.เผียวเชี่ยงฮ่าว
    • รองศาสตราจารย์
    • ผู้อำนวยการบำบัด
    • ผู้เชี่ยวชาญจบการรักษาแบบเปิดแผลเล็กจากญี่ปุ่น
    นัดหมาย
    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
  • นพ.หลิวซู่เผิง
    • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
    นัดหมาย
    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
  • นพ.หลงซินอัน
    • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
    นัดหมาย
    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
  • หัวหน้าเทคนิคการแพทย์ หลี่หลงหลง
    • หัวหน้าเทคนิคการแพทย์
    • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค
    นัดหมาย
    ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด

ความไว้วางใจจากผู้ป่วยในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

*ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจาก :


ตั้งแต่สร้างโรงพยาบาลขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดมหาวิทยาลัยจี้หนานได้รักษาผู้ป่วยมากกว่า 100 ประเทศ ในนั้นมีผู้ป่วยจากตะวันออกเฉียงใต้จำนวนกว่า 10000 ราย ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วยทั่วโลก

แนะนำฟูด้า

โรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าในสังกัดของมหาวิทยาลัยจี้หนานเป็นโรงพยาบาลเฉพาะด้านโรคมะเร็งระดับสูงสุดภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณะสุขแห่งมณฑลกวางตุ้ง ทั้งยังเป็นโรงพยาบาลเฉพาะด้านโรงมะเร็งแห่งแรกที่รับรองมาตรฐานJCIในมณฑลกวางตุ้ง ในปี 2010 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งชาติ และในปี 2011 ได้รับการประเมินให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะด้านแห่งมณฑลกวางตุ้งโรงพยาบาลมะเร็งฟูด้าเป็นโรงพยาบาลแบบสากล รักษาผู้ป่วยมะเร็งจากกว่า 100 ประเทศด้วยแนวคิดต่อต้านมะเร็งพิเศษ(ให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีและรอดชีวิตได้นาน)และวิธีการรักษาแบบแผลเล็กที่ทันสมัยกว่า 20 วิธี เช่นการรักษาด้วยมีดนาโน การรักษาด้วยความเย็น กรรักษาแบบคีโมเฉพาะจุด เป็นต้น


หากได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งตับอ่อน การเลือกวิธีการรักษาที่ได้ผลจะสำคัญมาก โดยเฉพาะมะเร็งระยะสุดท้ายที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัด คีโมและฉายแสง การเลือกวิธีการรักษาที่ถูกต้องนั้นสามารถยืดชีวิตของผู้ป่วยและรักษาให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีและมีประสิทธิภาพ